The IELTS Club x Prepedu

การกลับคำ (Inversion) ในไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ: 7 โครงสร้างที่ควรรู้

ในบทความนี้เราจะเรียนรู้การกลับคำ (Inversion) ในภาษาอังกฤษ การใช้โครงสร้างต่างๆ พร้อมตัวอย่างและคำอธิบายที่เข้าใจง่าย ทำให้คุณสามารถใช้ได้อย่างมั่นใจในการสอบ IELTS

I. Inversion​ คืออะไร?

การกลับคำ (Inversion) คือการเปลี่ยนแปลงลำดับคำในประโยคจากรูปแบบปกติ (Subject + Verb + Object) โดยทั่วไปแล้วจะนำกริยามาไว้ข้างหน้าประธาน เพื่อสร้างความเน้นหรือทำให้ประโยคดูน่าสนใจมากขึ้น

การใช้การกลับคำช่วยให้การสื่อสารในภาษาอังกฤษมีความกระชับและสร้างความแตกต่างในประโยค โดยเฉพาะในการพูดหรือเขียนในเชิงวิชาการ เช่น การสอบ IELTS

II. โครงสร้างการกลับคำที่ใช้บ่อยในภาษาอังกฤษ

1. การกลับคำกับคำวิเศษณ์ที่บอกความถี่

สูตร:

[Adverb of Frequency] + [Auxiliary Verb] + [Subject] + [Main Verb]

การใช้คำวิเศษณ์ที่บอกความถี่ เช่น “never”, “rarely”, “seldom” ที่วางไว้ในจุดเริ่มต้นของประโยคจะทำให้เกิดการกลับคำ

ตัวอย่าง:

  1. Rarely does she visit her hometown. (เธอแทบจะไม่กลับไปเยี่ยมบ้านเกิดเลย)
  2. Never have I seen such an amazing performance. (ฉันไม่เคยเห็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้มาก่อน)

2. การกลับคำกับโครงสร้าง No sooner… than = Hardly…When

สูตร:

[No sooner/ Hardly] + [Auxiliary Verb] + [Subject] + [Main Verb] + [than/when] + + S + V (ทันทีที่…ก็…)

การใช้ “No sooner” หรือ “Hardly” ช่วยเน้นความเร็วในการเกิดเหตุการณ์ ซึ่งการกลับคำทำให้ประโยคดูมีพลังและมีความหมายชัดเจนยิ่งขึ้น

ตัวอย่าง:

  1. No sooner had I finished my meal than the phone rang. (ทันทีที่ฉันทานอาหารเสร็จ โทรศัพท์ก็โทรเข้ามาทันที)
  2. Hardly had they entered the room when the lights went off. (พวกเขายังไม่ทันเข้าไปในห้อง ไฟก็ดับแล้ว)

การกลับคำกับโครงสร้าง No sooner… than = Hardly…When

3. การกลับคำกับโครงสร้าง Not only … but also

สูตร:

Not only + [Auxiliary Verb] + [Subject] + [Main Verb], but [Subject] + also + [Main Verb]

การใช้ “Not only… but also” ช่วยเชื่อมโยงสิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกันและทำให้ประโยคมีความหลากหลายมากขึ้น

ตัวอย่าง:

  1. Not only is he a talented musician, but he is also a great teacher. (เขาไม่เพียงแต่เป็นนักดนตรีที่มีความสามารถ แต่ยังเป็นครูที่ยอดเยี่ยมด้วย)
  2. Not only did she pass the exam with flying colors, but she also helped her friends prepare. (เธอไม่เพียงแต่สอบผ่านด้วยคะแนนดีเยี่ยม แต่ยังช่วยเพื่อนเตรียมตัวสอบด้วย)

4. การกลับคำกับกลุ่มคำปฏิเสธที่มีคำว่า No

สูตร:

No + [Noun/Pronoun] + [Auxiliary Verb] + [Subject] + [Main Verb]

คำปฏิเสธที่มีคำว่า “No” เช่น “No one”, “No longer” จะทำให้เกิดการกลับคำในประโยค

ตัวอย่าง:

  1. No longer will I tolerate such behavior. (ฉันจะไม่ทนกับพฤติกรรมเช่นนี้อีกต่อไป)
  2. No one has ever complained about the service. (ไม่มีใครเคยบ่นเกี่ยวกับการบริการ)

5. การกลับคำในภาษาอังกฤษกับโครงสร้าง ‘Until/ Till’

สูตร:

Until/Till + [Subject] + [Auxiliary Verb] + [Main Verb]

การใช้ “Until” หรือ “Till” ที่วางไว้ในจุดเริ่มต้นของประโยคทำให้เกิดการกลับคำเพื่อเน้นย้ำเวลา

ตัวอย่าง:

  1. Until the work is completed, I will not leave. (จนกว่างานจะเสร็จ ฉันจะไม่ออกจากที่นี่)
  2. Till the sun sets, we will continue working. (จนกว่าแดดจะตก เราจะทำงานต่อไป)

การกลับคำในภาษาอังกฤษกับโครงสร้าง ‘Until/ Till’

6. สูตรการกลับคำกับ So that และ Such that

สูตร:

So + [Adjective/Adverb] + [Auxiliary Verb] + [Subject] + [Main Verb] + [that] + [Result Clause]
Such + [Noun] + [Auxiliary Verb] + [Subject] + [Main Verb] + [that] + [Result Clause]

การใช้ So that หรือ Such that เพื่อเน้นผลลัพธ์ของการกระทำ โดยใช้การกลับคำเพื่อเพิ่มความเน้น

ตัวอย่าง:

  1. So carefully did she plan the event that everything went smoothly. (เธอวางแผนงานอย่างระมัดระวังจนทุกอย่างราบรื่น)
  2. Such was his determination that he succeeded against all odds. (ความมุ่งมั่นของเขามากจนเขาประสบความสำเร็จได้แม้จะเผชิญกับอุปสรรคทั้งหมด)

7. โครงสร้างการกลับคำกับประโยคเงื่อนไข If

ในภาษาอังกฤษ ประโยคเงื่อนไข (Conditional Sentences) ใช้เพื่อแสดงเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น หรือผลลัพธ์ที่อาจจะตามมาจากการกระทำหรือสถานการณ์บางอย่าง ซึ่งการใช้การกลับคำ (inversion) ในประโยคเงื่อนไขสามารถช่วยให้ประโยคดูเป็นทางการหรือเพิ่มความเน้นย้ำได้ โดยเฉพาะในประโยคเงื่อนไขที่ไม่มี “If” (หรือ “Inversion” với “If”).

1. ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 1 (First Conditional)

ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 1 ใช้เพื่อแสดงเหตุการณ์ที่มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หากมีเงื่อนไขบางอย่างเกิดขึ้นในปัจจุบันหรืออนาคต

สูตร (ปกติ):

If + [Present Simple], [Will + Verb]

เมื่อประโยคมีการกลับคำ จะไม่มีคำว่า “If” แต่จะใช้ “Should” แทนเพื่อสร้างการกลับคำ:

สูตร (การกลับคำ):

[Should] + [Subject] + [Verb], [Main Clause]

ตัวอย่าง:

  1. ปกติ: If it rains tomorrow, I will stay at home.
    การกลับคำ: Should it rain tomorrow, I will stay at home. (ถ้าฝนตกพรุ่งนี้ ฉันจะอยู่บ้าน)
  2. ปกติ: If you study hard, you will pass the exam.
    การกลับคำ: Should you study hard, you will pass the exam. (ถ้าคุณตั้งใจเรียน คุณจะสอบผ่าน)

การใช้ “Should” ในประโยคจะทำให้ประโยคดูทางการและเน้นย้ำเงื่อนไขที่อาจจะเกิดขึ้น

2. ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 2 (Second Conditional)

ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 2 ใช้สำหรับเหตุการณ์ที่เป็นไปได้แต่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในปัจจุบันหรืออนาคต เช่น เหตุการณ์ที่เป็นไปได้แต่ต้องการการสมมติ

สูตร (ปกติ):

If + [Past Simple], [Would + Verb]

เมื่อใช้การกลับคำในประโยคนี้ จะใช้ “Were” แทน “If” เพื่อเพิ่มความเป็นทางการ

สูตร (การกลับคำ):

[Were] + [Subject] + [Verb], [Main Clause]

ตัวอย่าง:

  1. ปกติ: If I were you, I would accept the offer.
    การกลับคำ: Were I you, I would accept the offer. (ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะรับข้อเสนอนั้น)
  2. ปกติ: If she knew the answer, she would tell you.
    การกลับคำ: Were she to know the answer, she would tell you. (ถ้าเธอรู้คำตอบ เธอก็จะบอกคุณ)

การใช้ “Were” ในการกลับคำช่วยทำให้ประโยคดูมีความเป็นทางการและกระชับยิ่งขึ้น

3. ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 3 (Third Conditional)

ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 3 ใช้เพื่อแสดงเหตุการณ์ที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้แล้วในอดีต เพราะเงื่อนไขไม่ได้เกิดขึ้นในตอนนั้น

สูตร (ปกติ):

If + [Past Perfect], [Would have + Past Participle]

การกลับคำในประโยคเงื่อนไขแบบที่ 3 ใช้ “Had” แทน “If” เพื่อแสดงความเป็นทางการ

สูตร (การกลับคำ):

[Had] + [Subject] + [Past Participle], [Main Clause]

ตัวอย่าง:

  1. ปกติ: If I had known about the meeting, I would have attended.
    การกลับคำ: Had I known about the meeting, I would have attended. (ถ้าฉันรู้เรื่องการประชุม ฉันคงจะไปร่วม)
  2. ปกติ: If they had left earlier, they would have caught the train.
    การกลับคำ: Had they left earlier, they would have caught the train. (ถ้าพวกเขาออกก่อนหน้านี้ พวกเขาก็คงจะทันรถไฟ)

การใช้ “Had” ในประโยคเงื่อนไขแบบที่ 3 ไม่เพียงแต่ช่วยให้ประโยคดูทางการ แต่ยังทำให้การแสดงผลลัพธ์จากเหตุการณ์ที่ไม่เกิดขึ้นดูชัดเจนยิ่งขึ้น

การกลับคำ (Inversion​) เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการทำให้ประโยคในภาษาอังกฤษดูมีความหลากหลายและเน้นย้ำความสำคัญของส่วนต่างๆ ในประโยค การเข้าใจและใช้การกลับคำในโครงสร้างต่างๆ อย่างถูกต้องจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการพูดและเขียนภาษาอังกฤษ รวมถึงการสอบ IELTS ด้วย

การฝึกฝนโครงสร้างการกลับคำที่กล่าวถึงในบทความนี้จะช่วยให้คุณสามารถสร้างประโยคที่มีพลังและน่าสนใจมากขึ้น อย่าลืมใช้มันในการสื่อสารทุกวันเพื่อเพิ่มความคล่องแคล่วในการใช้ภาษาอังกฤษ!

5/5 - (1 vote)
The IELTS Club x Prepedu

รายการบทความ

บางทีคุณอาจสนใจ

If Clause Type 0

ประโยค If Clause Type 0 (Zero conditional): สูตร, การใช้งาน, แบบฝึกหัด

0
คุณกำลังศึกษาเกี่ยวกับ If Clause Type 0 - หนึ่งในโครงสร้างประโยคเงื่อนไขที่สำคัญในภาษาอังกฤษ? บทความนี้จะให้ความรู้เต็มรูปแบบเกี่ยวกับโครงสร้าง, การใช้งาน และแบบฝึกหัดเกี่ยวกับ If Clause Type 0 เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างชำนาญในการสื่อสารและการเขียน มาติดตามกันเลย! I. ประโยค If Clause Type 0 คืออะไร? If Clause Type...
If Clause Type 3

ความรู้เกี่ยวกับประโยคเงื่อนไขประเภท 3 (If Clause Type 3) และแบบฝึกหัด

0
คุณกำลังพบปัญหาในการเรียน If Clause Type 3 หรือไม่? บทความนี้จะมอบความรู้เต็มรูปแบบเกี่ยวกับโครงสร้าง, การใช้งาน, การแปรผัน และแบบฝึกหัดที่มีคำตอบเกี่ยวกับ If Clause Type 3 ให้กับคุณ ติดตามกันเลยเพื่อเสริมสร้างความรู้ด้านไวยากรณ์ภาษาอังกฤษของคุณ! I. If Clause Type 3 คืออะไร? ประโยคเงื่อนไขประเภท 3 เป็นประเภทของประโยคที่ใช้เมื่อผู้พูดจินตนาการถึงผลลัพธ์ของเหตุการณ์/สถานการณ์/การกระทำที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงในอดีต ตัวอย่าง: If...
Modal verbs

Modal verbs คืออะไร? วิธีการใช้กริยาช่วยและแบบฝึกหัดพร้อมคำตอบ

0
คุณกำลังประสบปัญหาในการเรียนรู้ Modal verbs - กริยาช่วยในภาษาอังกฤษหรือไม่? บทความนี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยคุณเอาชนะหัวข้อไวยากรณ์สำคัญนี้อย่างมีประสิทธิภาพ มาร่วมค้นพบความรู้และแบบฝึกหัดที่มีประโยชน์เกี่ยวกับ Modal verbs กันเลย! I. Modal Verbs มีอะไรบ้าง? กริยาช่วย (Modal Verbs) หรือที่เรียกว่า กริยาช่วยหรือกริยาแสดงความรู้สึก มีหน้าที่แสดงความจำเป็นและหมายความในประโยค รวมถึงความสามารถ การอนุญาต ความจำเป็น การคาดการณ์ และอื่นๆ ประกอบด้วย...
If Clause Type 1

If Clause Type 1 คืออะไร? ความรู้ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับ First Conditional

0
คุณต้องการที่จะเชี่ยวชาญไวยากรณ์ภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่? มาค้นพบ "If Clause Type 1" - ประโยคเงื่อนไขประเภท 1, หัวข้อสำคัญในการสื่อสารภาษาอังกฤษ บทความนี้จะให้ความรู้ที่ครบถ้วนเกี่ยวกับโครงสร้าง, การใช้งาน, คำแนะนำต่างๆ และรูปแบบการเปลี่ยนแปลงของ If Clause Type 1, ช่วยให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างชำนาญในทุกสถานการณ์ อย่าพลาดบทความที่มีประโยชน์นี้นะ! I. If Clause Type 1...
If Clause Type 2

If Clause Type 2 – โครงสร้าง, การใช้งาน, แบบฝึกหัดพร้อมคำตอบ

0
คุณกำลังพบปัญหาในการใช้ "If Clause Type 2" (ประโยคเงื่อนไขประเภท 2) ในภาษาอังกฤษหรือไม่? บทความนี้จะให้ความรู้เกี่ยวกับโครงสร้าง, การใช้งาน, การแปรผัน และแบบฝึกหัดที่เกี่ยวข้องกับประเภทประโยคเงื่อนไขนี้แก่คุณ มาค้นพบกันเลยเพื่อเพิ่มพูนทักษะภาษาอังกฤษของคุณ! I. If Clause Type 2 คืออะไร? "If Clause Type 2" หรือที่รู้จักกันว่า "ประโยคเงื่อนไขประเภท 2"...

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

โพสต์ใหม่

ความแตกต่างระหว่าง because กับ because of และการใช้ในภาษาอังกฤษ

Grammar
Read more