The IELTS Club x Prepedu

If Clause Type 1 (First Conditional): โครงสร้าง วิธีใช้ ตัวอย่าง แบบฝึกหัด และข้อควรระวัง ฉบับสมบูรณ์

คุณต้องการที่จะเชี่ยวชาญไวยากรณ์ภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่? มาค้นพบ “If Clause Type 1” – ประโยคเงื่อนไขประเภท 1, หัวข้อสำคัญในการสื่อสารภาษาอังกฤษ บทความนี้จะให้ความรู้ที่ครบถ้วนเกี่ยวกับโครงสร้าง, การใช้งาน, คำแนะนำต่างๆ และรูปแบบการเปลี่ยนแปลงของ If Clause Type 1, ช่วยให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างชำนาญในทุกสถานการณ์ อย่าพลาดบทความที่มีประโยชน์นี้นะ!

I. If Clause Type 1 คืออะไร และเหตุใดจึงสำคัญ?

If clause type 1 หรือที่เรียกว่า First Conditional เป็นประโยคเงื่อนไขที่ใช้พูดถึงสถานการณ์ที่มีความเป็นไปได้จริงในปัจจุบันหรืออนาคต เป็นการเชื่อมโยงระหว่าง “เงื่อนไข” ที่มีโอกาสเกิดขึ้นจริง กับ “ผลลัพธ์” ที่น่าจะตามมาหากเงื่อนไขนั้นเป็นจริง

การเข้าใจ if clause type 1 มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสื่อสารภาษาอังกฤษ เพราะช่วยให้เราสามารถพูดถึงแผนการ คาดการณ์ หรือแสดงการเตือนได้อย่างเป็นธรรมชาติ ในชีวิตประจำวัน เราใช้ประโยคลักษณะนี้บ่อยครั้งเมื่อต้องการบอกถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตภายใต้เงื่อนไขบางประการ เช่น “ถ้าฝนตก ฉันจะเอาร่มไปด้วย” หรือ “ถ้าเธอขยัน เธอจะประสบความสำเร็จ”

ตัวอย่างใหม่:

  • If Alex exercises regularly, he will be healthier. (ถ้าอเล็กซ์ออกกำลังกายเป็นประจำ เขาจะมีสุขภาพที่ดีขึ้น)
  • If it stays sunny, we’ll have a picnic tomorrow. (ถ้าพรุ่งนี้อากาศยังแจ่มใส เราจะไปปิกนิก)

II. เผยโครงสร้างประโยค If Clause Type 1 ที่ถูกต้อง (จำง่าย ใช้ได้จริง)

ประโยคเงื่อนไขประเภท 1 มีโครงสร้างทั่วไปคือประกอบด้วยสองมาณภาค: มาณภาคเงื่อนไขและมาณภาคหลัก

1. สูตรโครงสร้างหลัก: If + Present Simple, Will + V.infinitive

โครงสร้างของ if clause type 1 มีรูปแบบที่เฉพาะเจาะจงและต้องใช้ให้ถูกต้อง สูตรหลักคือ:

If + Subject + Present Simple, Subject + will + Verb infinitive

ประโยคนี้ประกอบด้วย 2 ส่วนสำคัญ:

  • ส่วนเงื่อนไข (If-Clause): ขึ้นต้นด้วย “If” และใช้รูปประโยค Present Simple เสมอ
  • ส่วนผลลัพธ์ (Main Clause): คือส่วนที่บอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น และใช้รูปประโยค “will + V.inf”

ตัวอย่าง: If you study hard, you will pass the exam.

2. ถอดรหัสโครงสร้างประโยค If Clause Type 1 (Sentence Structure)

นอกจากสูตรพื้นฐานแล้ว ยังมีรายละเอียดที่ต้องเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงสร้างประโยค conditional type 1:

การสลับตำแหน่ง: เราสามารถสลับลำดับได้เป็น “Subject + will + Verb infinitive + if + Subject + Present Simple Tense” โดยความหมายยังคงเหมือนเดิม

ตัวอย่าง: You will pass the exam if you study hard.

กฎการใช้ Comma: เมื่อเริ่มประโยคด้วย If-Clause ต้องใส่เครื่องหมายจุลภาค (comma) คั่นระหว่างส่วนเงื่อนไขกับส่วนผลลัพธ์เสมอ แต่ถ้าส่วนผลลัพธ์อยู่ก่อน ไม่ต้องใส่ comma

ตัวอย่าง:

  • If it rains tomorrow, I will stay at home. (ใส่ comma)
  • I will stay at home if it rains tomorrow. (ไม่ต้องใส่ comma)

ตัวอย่างใหม่:

  • If Ben studies diligently, he will pass his exams. (ถ้าเบนเรียนอย่างขยันขันแข็ง เขาจะผ่านการสอบ)
  • The team will win if they play well. (ทีมจะชนะถ้าพวกเขาเล่นได้ดี)
โครงสร้างของประโยค If Clause Type 1
โครงสร้างของประโยค If Clause Type 1

III. การใช้ประโยคเงื่อนไขประเภท 1 – If Clause Type 1

หลักการสำคัญ

หัวใจของ if clause type 1 คือการพูดถึงเงื่อนไขที่เป็นไปได้จริง (Real & Possible Conditions) ในปัจจุบันหรืออนาคต ไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้หรือจินตนาการ ตัวอย่างประโยค if clause type 1 มักใช้ในสถานการณ์ต่อไปนี้:

สถานการณ์จำเพาะ:

  1. การคาดการณ์ (Predictions): ใช้เมื่อต้องการคาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้นหากเงื่อนไขบางอย่างเป็นจริง “If it snows tonight, the roads will be dangerous.” (ถ้าหิมะตกคืนนี้ ถนนจะอันตราย)
  2. การวางแผนในอนาคต (Future Plans): ใช้เมื่อต้องการพูดถึงแผนการที่ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขบางอย่าง “If I finish work early, I will meet you at the restaurant.” (ถ้าฉันเลิกงานเร็ว ฉันจะไปพบคุณที่ร้านอาหาร)
  3. การให้คำเตือน (Warnings): ใช้เมื่อต้องการเตือนถึงผลลัพธ์ที่ไม่ดีที่อาจเกิดขึ้นหากเงื่อนไขบางอย่างเป็นจริง “If you don’t wear a helmet, you will hurt yourself.” (ถ้าคุณไม่สวมหมวกกันน็อค คุณจะได้รับบาดเจ็บ)
  4. การยื่นข้อเสนอ (Offers): ใช้เมื่อต้องการเสนอความช่วยเหลือหรือสิ่งของภายใต้เงื่อนไขบางประการ “If you need help, I will assist you.” (ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือ ฉันจะช่วยคุณ)
  5. การให้สัญญา (Promises): ใช้เมื่อต้องการให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำอะไรบางอย่างหากเงื่อนไขเกิดขึ้น “If you lend me the money, I will pay you back next month.” (ถ้าคุณให้ฉันยืมเงิน ฉันจะคืนให้คุณเดือนหน้า)

IV. การใช้ Modal Verbs อื่นๆ แทน ‘will’ ใน Main Clause

เหตุผลในการใช้ Modal Verbs อื่น

แม้ว่าโครงสร้างพื้นฐานของ if clause type 1 จะใช้ “will” แต่เราสามารถใช้ modal verbs อื่นๆ ในส่วนผลลัพธ์เพื่อให้ความหมายที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น (nuance) ตามความต้องการในการสื่อสาร ทำให้ประโยค conditional type 1 มีความหลากหลายและยืดหยุ่นมากขึ้น

Modal Verbs ที่ใช้แทน ‘will’ ได้:

  1. Can / May: ใช้แสดงความเป็นไปได้ (possibility), ความสามารถ (ability) หรือการอนุญาต (permission) “If you finish your homework, you can play video games.” (ถ้าคุณทำการบ้านเสร็จ คุณสามารถเล่นวิดีโอเกมได้)
  2. Might / Could: ใช้แสดงความเป็นไปได้ที่น้อยกว่า ‘will’ หรือไม่แน่นอนมากกว่า “If it rains, we might cancel the picnic.” (ถ้าฝนตก เราอาจจะยกเลิกการปิกนิก)
  3. Should: ใช้แสดงคำแนะนำ (advice) หรือสิ่งที่ควรทำ “If you want to lose weight, you should exercise regularly.” (ถ้าคุณต้องการลดน้ำหนัก คุณควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ)
  4. Must / Have to: ใช้แสดงความจำเป็น (necessity) หรือข้อบังคับ (obligation) “If you want to enter the country, you must have a valid passport.” (ถ้าคุณต้องการเข้าประเทศ คุณต้องมีหนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ)

ข้อสำคัญที่ต้องจำ

Modal Verbs เหล่านี้ใช้ได้เฉพาะใน Main Clause เท่านั้น ห้ามใช้ใน If-Clause เด็ดขาด! นี่เป็นกฎสำคัญที่ต้องจำให้ขึ้นใจเมื่อใช้ประโยค if clause type 1

V. การแปรผันของประโยค First Conditional

1. การแปรผันของประโยคหลัก

กริยาในประโยคหลักสามารถใช้ในรูปแบบปัจจุบันง่าย เพื่อแสดงกิจกรรมหรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ

  • ตัวอย่างใหม่: If he jogs in the morning, he feels refreshed all day. (ถ้าเขาวิ่งเช้า, เขาจะรู้สึกสดชื่นตลอดวัน)

นอกจากการใช้ “will” ในประโยคหลักแล้ว ผู้เรียนสามารถใช้กริยาช่วยเช่น “may, might, can, could” เพื่อแสดงความเป็นไปได้หรือโอกาสของผลลัพธ์

ตัวอย่างใหม่:

  • If she applies for the job, she might get an interview. (ถ้าเธอสมัครงานนั้น, เธออาจได้รับการสัมภาษณ์)
  • If the sun shines, we can have the party outside. (ถ้าแดดออก, เราสามารถจัดปาร์ตี้ข้างนอกได้)

กริยาเช่น “should, ought to, have to, must” ใช้ในประโยคหลักเพื่อให้คำแนะนำ, ข้อเสนอ หรือคำแนะนำ

ตัวอย่างใหม่:

  • If you want to improve your English, you should practice daily. (ถ้าคุณต้องการปรับปรุงภาษาอังกฤษของคุณ, คุณควรฝึกฝนทุกวัน)
  • If you feel tired, you ought to take a break. (ถ้าคุณรู้สึกเหนื่อย, คุณควรพักผ่อน)

ประโยคหลักยังสามารถใช้ในรูปแบบประโยคคำสั่งเพื่อให้คำสั่งหรือแนะนำในสถานการณ์ที่เป็นจริงหรืออาจเกิดขึ้นในปัจจุบันหรืออนาคต

ตัวอย่างใหม่:

  • If you meet her, tell her to call me. (ถ้าคุณพบเธอ, บอกเธอให้โทรหาฉัน)
การแปรผันของประโยคหลัก
การแปรผันของประโยคหลัก

2. การแปรผันของประโยคเงื่อนไข

นอกจากใช้รูปแบบปัจจุบันง่ายแล้ว ยังสามารถใช้รูปแบบปัจจุบันกำลังดำเนินหรือปัจจุบันสมบูรณ์ได้ในประโยคเงื่อนไขเพื่อแสดงการกระทำที่กำลังดำเนินอยู่หรือเมื่อเวลาการกระทำไม่ชัดเจน

ตัวอย่างใหม่:

  • If he is working late, he will miss the dinner. (ถ้าเขาทำงานดึก, เขาจะพลาดมื้อเย็น)
  • If she has completed her project, she will start a new one. (ถ้าเธอเสร็จสิ้นโปรเจคของเธอ, เธอจะเริ่มโปรเจคใหม่)

ในประโยคเงื่อนไข, ผู้เรียนสามารถใช้ “should” ตามด้วยกริยาต้นฉบับโดยไม่มี “to” โครงสร้างนี้บ่งบอกว่าสถานการณ์อาจเกิดขึ้นแต่โอกาสเกิดขึ้นค่อนข้างยาก

ตัวอย่างใหม่: Should he arrive late, we will proceed without him. (หากเขามาสาย, เราจะดำเนินการต่อโดยไม่มีเขา)

“Will” อาจถูกใช้ในประโยคเงื่อนไขเพื่อแสดงความเต็มใจและ “won’t” เพื่อแสดงการปฏิเสธ

ตัวอย่างใหม่:

  • If you will assist me with this report, I would be very appreciative. (ถ้าคุณช่วยฉันกับรายงานนี้, ฉันจะขอบคุณมาก)
  • If she won’t consider our proposal, we will have to find another partner. (ถ้าเธอไม่พิจารณาข้อเสนอของเรา, เราจะต้องหาคู่ค้าใหม่)

“Will” ในประโยคเงื่อนไขใช้เพื่อแสดงคำขอ

  • ตัวอย่างใหม่: If you’ll kindly wait a moment, I’ll get your file. (ถ้าคุณกรุณารอสักครู่, ฉันจะไปเอาไฟล์ของคุณ)

VI. การใช้การกลับของประโยคเงื่อนไขประเภท 1

ในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างถูกต้อง มาดูรายละเอียดของการใช้การกลับของประโยคเงื่อนไขประเภท 1 (If Clause Type 1):

If + S + V (present simple), S + will + V → Should + S + V-inf, S + will + V

ตัวอย่าง:

If my sister finds the keys, she will drive to town. (ถ้าน้องสาวของฉันหากุญแจเจอ, เธอจะขับรถไปเมือง)

→ Should my sister find the keys, she will drive to town.

อ้างอิงเพิ่มเติม: If Clause Type 0: คือ สูตร การใช้ และแบบฝึกหัดพร้อมเฉลย

VII. ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย (Common Mistakes): กับดักที่ผู้เรียนชาวไทยต้องระวัง

ผู้เรียนชาวไทยมักพบข้อผิดพลาดบางประการเมื่อใช้ if clause type 1 ซึ่งสามารถหลีกเลี่ยงได้หากเข้าใจหลักการที่ถูกต้อง ต่อไปนี้คือข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุด:

– ข้อผิดพลาดที่ 1: การใส่ ‘will’ หรือ Modal Verb ใน If-Clause

❌ ผิด: “If it will rain tomorrow, I will stay at home.” ✓ ถูก: “If it rains tomorrow, I will stay at home.”

อธิบาย: ในส่วนของ if-clause เราต้องใช้ present simple เสมอ ไม่ว่าเหตุการณ์นั้นจะเกิดในอนาคต ห้ามใช้ will หรือ modal verbs อื่นๆ ในส่วนนี้

– ข้อผิดพลาดที่ 2: การใช้ Tense ผิดใน Clause ใด Clause หนึ่ง

❌ ผิด: “If you studied hard, you will pass the exam.” ✓ ถูก: “If you study hard, you will pass the exam.”

อธิบาย: ต้องใช้ present simple ใน if-clause และ will + verb infinitive ใน main clause เท่านั้น

– ข้อผิดพลาดที่ 3: การลืมใส่ Comma

❌ ผิด: “If the weather is nice we will go to the beach.” ✓ ถูก: “If the weather is nice, we will go to the beach.”

อธิบาย: เมื่อประโยคขึ้นต้นด้วย if-clause ต้องใส่ comma คั่นระหว่าง if-clause กับ main clause เสมอ

– ข้อผิดพลาดที่ 4: ความสับสนระหว่าง Type 1 กับ Type 2

❌ ผิด (หากต้องการพูดถึงสิ่งที่เป็นไปได้จริง): “If I had money, I would buy a new car.” ✓ ถูก (สำหรับสิ่งที่เป็นไปได้จริง): “If I have money, I will buy a new car.”

อธิบาย: Type 1 ใช้กับสถานการณ์ที่มีความเป็นไปได้จริงในปัจจุบันหรืออนาคต (If I have… I will…) ส่วน Type 2 ใช้กับสถานการณ์สมมติที่เป็นไปได้ยากหรือไม่เป็นจริงในปัจจุบัน (If I had… I would…)

VIII. แบบฝึกหัดเกี่ยวกับประโยคเงื่อนไขประเภท 1 (First Conditional)

แบบฝึกหัดที่ 1: เติมประโยคต่อไปนี้ให้สมบูรณ์โดยใช้คำกริยาที่เหมาะสมในรูปแบบกาลปัจจุบันและอนาคตที่เรียบง่าย:

  1. If it ________ (rain) tomorrow, I ________ (stay) at home.
  2. If you ________ (study) hard, you ________ (get) good grades.
  3. If she ________ (come) to the party, I ________ (introduce) her to my friends.
  4. If we ________ (have) enough time, we ________ (visit) the museum.
  5. If you ________ (not see) her, I ________ (give) you her phone number.

แบบฝึกหัดที่ 2: เขียนประโยคต่อไปนี้ใหม่โดยใช้การกลับกัน:

  1. If it rains tomorrow, I will stay at home.
  2. If you study hard, you will get good grades.
  3. If she comes to the party, I will introduce her to my friends.
  4. If we have enough time, we will visit the museum.
  5. If you don’t see her, I will give you her phone number.

แบบฝึกหัดที่ 3: ถามคำถามเกี่ยวกับข้อความต่อไปนี้:

  1. I will stay at home if it rains tomorrow.
  2. You will get good grades if you study hard.
  3. I will introduce her to my friends if she comes to the party.
  4. We will visit the museum if we have enough time.
  5. I will give you her phone number if you don’t see her.
คำตอบ:

แบบฝึกหัดที่ 1:

  1. rains – will stay
  2. study – will get
  3. comes – will introduce
  4. have – will visit
  5. don’t see – will give

แบบฝึกหัดที่ 2:

  1. Should it rain tomorrow, I will stay at home.
  2. Should you study hard, you will get good grades.
  3. Should she come to the party, I will introduce her to my friends.
  4. Should we have enough time, we will visit the museum.
  5. Should you not see her, I will give you her phone number.

แบบฝึกหัดที่ 3:

  1. What will you do if it rains tomorrow?
  2. How will you get good grades?
  3. What will you do if she comes to the party?
  4. What will you do if you have enough time?
  5. What will you do if you don’t see her?

First Conditional เป็นหัวข้อสำคัญในการสื่อสารภาษาอังกฤษ จะช่วยให้คุณแสดงสมมติฐานและผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้ให้ความรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับโครงสร้าง การใช้งาน หมายเหตุ และรูปแบบต่างๆ ของ If Clause Type 1 ซึ่งช่วยให้คุณใช้งานได้อย่างคล่องแคล่วในทุกบริบท

5/5 - (1 vote)
The IELTS Club x Prepedu

รายการบทความ

บางทีคุณอาจสนใจ

If Clause Type 0

เจาะลึก If Clause Type 0 (Zero Conditional): ประโยคเงื่อนไข “ความจริงแท้” ที่ต้องรู้ โครงสร้าง วิธีใช้ ตัวอย่างครบ

0
คุณกำลังศึกษาเกี่ยวกับ If Clause Type 0 - หนึ่งในโครงสร้างประโยคเงื่อนไขที่สำคัญในภาษาอังกฤษ? บทความนี้จะให้ความรู้เต็มรูปแบบเกี่ยวกับโครงสร้าง, การใช้งาน และแบบฝึกหัดเกี่ยวกับ If Clause Type 0 เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างชำนาญในการสื่อสารและการเขียน มาติดตามกันเลย! I. If Clause Type 0 คืออะไร? ทำความเข้าใจแก่นแท้ของประโยคเงื่อนไขแบบศูนย์ If clause type...
If Clause Type 3

If Clause Type 3 (ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 3): โครงสร้าง วิธีใช้ ตัวอย่าง เข้าใจง่ายในหน้าเดียว!

0
ประโยคเงื่อนไข (If Clause) เป็นโครงสร้างทางไวยากรณ์ที่สำคัญในภาษาอังกฤษ ช่วยให้เราสื่อสารความสัมพันธ์ระหว่าง "เงื่อนไข" กับ "ผลลัพธ์" ได้อย่างชัดเจน ในภาษาอังกฤษมีประโยคเงื่อนไขหลายประเภท ได้แก่ Type 0 (ความจริงทั่วไป), Type 1 (ความเป็นไปได้ในอนาคต), Type 2 (สถานการณ์สมมติในปัจจุบัน), Type 3 (สถานการณ์สมมติในอดีต) และ...
Modal verbs

Modal Verb คืออะไร? สรุปหลักการใช้กริยาช่วย เข้าใจง่าย ฉบับสมบูรณ์

0
ในการสื่อสารภาษาอังกฤษให้มีมิติลึกซึ้ง คุณจำเป็นต้องเข้าใจเครื่องมือสำคัญอย่าง Modal Verb คือ "กริยาช่วยชนิดพิเศษ" ที่เพิ่มความหมายให้ประโยคของคุณมีรายละเอียดมากขึ้น Modal verb คือกุญแจที่ช่วยให้คุณสื่อสารได้ตรงจุดประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงความสามารถ บอกความเป็นไปได้ หรือขออนุญาต การเข้าใจ modal verb คือการเปิดประตูไปสู่การใช้ภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้คุณสื่อเจตนา อารมณ์ และทัศนคติได้อย่างแม่นยำในทุกบริบทการสนทนา บทความนี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยคุณเอาชนะหัวข้อไวยากรณ์สำคัญนี้อย่างมีประสิทธิภาพ มาร่วมค้นพบความรู้และแบบฝึกหัดที่มีประโยชน์เกี่ยวกับ Modal verbs กันเลย! I....
If Clause Type 2

ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 2 (If Clause Type 2): คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับคนไทย เข้าใจง่าย ใช้ได้จริง

0
คุณกำลังพบปัญหาในการใช้ "If Clause Type 2" (ประโยคเงื่อนไขประเภท 2) ในภาษาอังกฤษหรือไม่? บทความนี้จะให้ความรู้เกี่ยวกับโครงสร้าง, การใช้งาน, การแปรผัน และแบบฝึกหัดที่เกี่ยวข้องกับประเภทประโยคเงื่อนไขนี้แก่คุณ มาค้นพบกันเลยเพื่อเพิ่มพูนทักษะภาษาอังกฤษของคุณ! I. If Clause Type 2 คืออะไร? If clause type 2 คือประโยคเงื่อนไขที่ใช้พูดถึงสถานการณ์ที่ "ตรงข้ามกับความเป็นจริงในปัจจุบัน" หรือ...
Past Perfect Continuous

เรียนรู้รายละเอียด Past Perfect Continuous Tense ในภาษาอังกฤษ

0
คุณกำลังพบปัญหาในการใช้ Past Perfect Continuous ในภาษาอังกฤษหรือไม่? บทความนี้จะให้ข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดเกี่ยวกับรูปแบบนี้ ตั้งแต่คำนิยาม โครงสร้าง วิธีการใช้ สัญญาณในการตรวจสอบ ไปจนถึงตัวอย่างและแบบฝึกหัดที่ใช้งานได้ มาค้นพบกันเลยเพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของคุณ! I. Past Perfect Continuous คืออะไร? Past Perfect Continuous เป็นรูปเวลาหนึ่งในภาษาอังกฤษที่ใช้แสดงถึงการกระทำที่เริ่มต้นในอดีต ดำเนินต่อเนื่องไปสักระยะหนึ่งและสิ้นสุดลงในช่วงเวลาหนึ่งในอดีต ตัวอย่างการใช้ Past Perfect Continuous: I...

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

โพสต์ใหม่

ความแตกต่างระหว่าง because กับ because of และการใช้ในภาษาอังกฤษ

Grammar
Read more