กาลอนาคตสมบูรณ์ (Future Perfect Tense) – สูตร, วิธีการใช้ และตัวอย่าง

คุณเคยพบกับกาลอนาคตสมบูรณ์ (Future Perfect Tense) ในภาษาอังกฤษแต่ยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับมันหรือไม่? บทความนี้จะช่วยคุณตอบทุกคำถามเกี่ยวกับ Future Perfect Tense รวมถึงสูตร, วิธีการใช้ และตัวอย่างประกอบ เรามาติดตามกันเลยเพื่อเพิ่มพูนความรู้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษของคุณ!

I. Future Perfect Tense คืออะไร?

Future Perfect Tense ใช้เพื่ออธิบายการกระทำหรือเหตุการณ์ที่คาดว่าจะเสร็จสิ้นก่อนจุดเวลาหนึ่งในอนาคต ต่อไปนี้คือตัวอย่างของ Future Perfect Tense:

  • By the time Jane arrives, I will have prepared the meal. (เมื่อเจนมาถึง ฉันจะเตรียมอาหารเสร็จแล้ว)
  • Our team will have completed the project before the deadline. (ทีมของเราจะทำโปรเจ็กต์เสร็จสิ้นก่อนกำหนดเวลา)

II. โครงสร้างของ Future Perfect Tense ในภาษาอังกฤษ

เช่นเดียวกับกาลอื่นๆ, โครงสร้างของ Future Perfect Tense แบ่งเป็น 3 รูปแบบหลัก:

  • ประโยคยืนยัน: S + will + have + V3/ed

ตัวอย่าง:

  • They will have arrived in New York by tomorrow evening. (พวกเขาจะมาถึงนิวยอร์กภายในเย็นวันพรุ่งนี้)
  • Sara will have worked here for three years by the end of this month. (ซาร่าจะทำงานที่นี่ครบสามปีในสิ้นเดือนนี้)
  • ประโยคปฏิเสธ: S + will + not + have + V3/ed

ตัวอย่าง:

  • We will not have finished the report until next week. (เราจะไม่เสร็จสิ้นรายงานจนถึงสัปดาห์หน้า)
  • The construction will not have been completed for another month. (การก่อสร้างจะยังไม่เสร็จสิ้นอีกหนึ่งเดือน)
  • ประโยคคำถาม Yes/No: Will + S + have + V3/ed?

ตัวอย่าง:

  • Will she have finished her degree by next year? (เธอจะจบปริญญาภายในปีหน้าหรือไม่?)
  • Will they have moved to their new house by July? (พวกเขาจะย้ายไปบ้านใหม่ภายในเดือนกรกฎาคมหรือไม่?)
  • ประโยคคำถาม Wh-question: Wh-question + will + S + have + V3/ed?

ตัวอย่าง:

  • What tasks will you have completed by the end of the day? (คุณจะทำงานอะไรเสร็จภายในสิ้นวันนี้?)
  • When will they have sent the invitations? (เมื่อไหร่พวกเขาจะส่งคำเชิญ?)
โครงสร้างของ Future Perfect Tense
โครงสร้างของ Future Perfect Tense

III. สัญญาณที่จะรู้จัก Future Perfect Tense

ต่อไปนี้คือสัญญาณที่ช่วยคุณรู้จักกับ Future Perfect Tense ในภาษาอังกฤษ:

  • By + ช่วงเวลาในอนาคต

ตัวอย่าง: The project will have been completed by next Friday. (โปรเจ็กต์นี้จะเสร็จสิ้นก่อนวันศุกร์หน้า)

  • By the time + ประโยคในอนาคต (ใช้รูปแบบปัจจุบันง่าย)

ตัวอย่าง: By the time we get there, the movie will have already started. (เมื่อเราไปถึงที่นั่น หนังจะเริ่มไปแล้ว)

  • By the end of + ช่วงเวลาในอนาคต

ตัวอย่าง: By the end of the week, she will have completed her thesis. (ภายในสิ้นสัปดาห์นี้ เธอจะทำวิทยานิพนธ์เสร็จสิ้นแล้ว)

  • Before + เหตุการณ์ในอนาคต

ตัวอย่าง: Before the season ends, the team will have won several matches. (ก่อนที่ฤดูกาลจะจบ ทีมจะชนะการแข่งขันหลายนัด)

  • ระยะเวลา + from now

ตัวอย่าง: One year from now, they will have graduated from university. (หนึ่งปีจากนี้ พวกเขาจะสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย)

สัญญาณที่จะรู้จัก Future Perfect Tense
สัญญาณที่จะรู้จัก Future Perfect Tense

IV. การใช้ Future Perfect Tense ในภาษาอังกฤษ

Future Perfect Tense ใช้ใน 2 กรณีต่อไปนี้:

  • แสดงการกระทำ/เหตุการณ์ที่คาดว่าจะเสร็จสิ้นก่อนจุดเวลาหนึ่งในอนาคต

ตัวอย่าง: By 10 PM, I will have finished reading this book. (ภายใน 10 นาฬิกาเย็น ฉันจะอ่านหนังสือเล่มนี้เสร็จแล้ว)

  • แสดงการกระทำหรือเหตุการณ์ที่จะสิ้นสุดก่อนการกระทำหรือเหตุการณ์อื่นในอนาคต: ในกรณีนี้ การกระทำ/เหตุการณ์ที่เสร็จสิ้นก่อนจะถูกใช้กับ Future Perfect Tense และการกระทำ/เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นจะใช้ Present Simple.

ตัวอย่าง: By the time the show starts, we will have reserved the best seats. (เมื่อโชว์เริ่มต้น เราจะจองที่นั่งที่ดีที่สุดไว้แล้ว)

V. แบบฝึกหัดเกี่ยวกับ Future Perfect Tense

แบบฝึกหัดที่ 1: เลือกรูปแบบคำกริยาที่ถูกต้องในวงเล็บเพื่อเติมประโยคต่อไปนี้:

  1. By the time the meeting starts, I (finish) my presentation.
  2. She (not leave) yet when I arrived.
  3. We (live) in Hanoi for 10 years by next month.
  4. When you see him, he (already eat) dinner.
  5. I wish I (have) more time to prepare for the exam.

แบบฝึกหัดที่ 2: เขียนประโยคที่สมบูรณ์โดยใช้ Future Perfect Tense โดยอาศัยข้อมูลต่อไปนี้:

  1. You go to the airport at 8 p.m. Your flight departs at 9 p.m.
  2. I start cooking dinner at 6 p.m. My friends arrive at 7 p.m.
  3. She takes the bus at 7 a.m. She arrives at school at 7:30 a.m.
  4. We go to the park at 9 a.m. It starts to rain at 10 a.m.
  5. I call him at 11 p.m. He goes to bed at 10:30 p.m.
คำตอบ:

แบบฝึกหัดที่ 1:

  1. will have finished
  2. hadn’t left
  3. will have lived
  4. will have already eaten
  5. had

แบบฝึกหัดที่ 2:

  1. By the time my flight departs, I will have finished checking in.
  2. By the time my friends arrive, I will have cooked dinner.
  3. By the time she arrives at school, she will have taken the bus for 30 minutes.
  4. By the time it starts to rain, we will have been in the park for an hour.
  5. By the time he goes to bed, I will have already called him.

Future Perfect Tense เป็นส่วนสำคัญของไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ หวังว่าบทความนี้จะทำให้คุณมีความรู้เพียงพอเกี่ยวกับโครงสร้าง การใช้งาน และตัวอย่างประกอบของ Future Perfect Tense ฝึกฝนเป็นประจำเพื่อใช้ Tense นี้ในภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว!

Rate this post

รายการบทความ

บางทีคุณอาจสนใจ

Past Perfect Continuous

เรียนรู้รายละเอียด Past Perfect Continuous Tense ในภาษาอังกฤษ

0
คุณกำลังพบปัญหาในการใช้ Past Perfect Continuous ในภาษาอังกฤษหรือไม่? บทความนี้จะให้ข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดเกี่ยวกับรูปแบบนี้ ตั้งแต่คำนิยาม โครงสร้าง วิธีการใช้ สัญญาณในการตรวจสอบ ไปจนถึงตัวอย่างและแบบฝึกหัดที่ใช้งานได้ มาค้นพบกันเลยเพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของคุณ! I. Past Perfect Continuous คืออะไร? Past Perfect Continuous เป็นรูปเวลาหนึ่งในภาษาอังกฤษที่ใช้แสดงถึงการกระทำที่เริ่มต้นในอดีต ดำเนินต่อเนื่องไปสักระยะหนึ่งและสิ้นสุดลงในช่วงเวลาหนึ่งในอดีต ตัวอย่างการใช้ Past Perfect Continuous: I...
Modal verbs

Modal verbs คืออะไร? วิธีการใช้กริยาช่วยและแบบฝึกหัดพร้อมคำตอบ

0
คุณกำลังประสบปัญหาในการเรียนรู้ Modal verbs - กริยาช่วยในภาษาอังกฤษหรือไม่? บทความนี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยคุณเอาชนะหัวข้อไวยากรณ์สำคัญนี้อย่างมีประสิทธิภาพ มาร่วมค้นพบความรู้และแบบฝึกหัดที่มีประโยชน์เกี่ยวกับ Modal verbs กันเลย! I. Modal Verbs มีอะไรบ้าง? กริยาช่วย (Modal Verbs) หรือที่เรียกว่า กริยาช่วยหรือกริยาแสดงความรู้สึก มีหน้าที่แสดงความจำเป็นและหมายความในประโยค รวมถึงความสามารถ การอนุญาต ความจำเป็น การคาดการณ์ และอื่นๆ ประกอบด้วย...
If Clause Type 0

ประโยค If Clause Type 0 (Zero conditional): สูตร, การใช้งาน, แบบฝึกหัด

0
คุณกำลังศึกษาเกี่ยวกับ If Clause Type 0 - หนึ่งในโครงสร้างประโยคเงื่อนไขที่สำคัญในภาษาอังกฤษ? บทความนี้จะให้ความรู้เต็มรูปแบบเกี่ยวกับโครงสร้าง, การใช้งาน และแบบฝึกหัดเกี่ยวกับ If Clause Type 0 เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างชำนาญในการสื่อสารและการเขียน มาติดตามกันเลย! I. ประโยค If Clause Type 0 คืออะไร? If Clause Type...
ประโยคปฏิเสธ ภาษาอังกฤษ

10+ โครงสร้างประโยคปฏิเสธภาษาอังกฤษที่ใช้กันทั่วไป

0
คุณกำลังประสบปัญหาในการใช้ประโยคปฏิเสธ ภาษาอังกฤษหรือไม่? บทความนี้จะเป็นคู่มือที่มีประโยชน์สำหรับคุณ โดยให้ข้อมูลครบถ้วนเกี่ยวกับโครงสร้างประโยคปฏิเสธที่พบบ่อยที่สุดพร้อมแบบฝึกหัดใช้งานเพื่อช่วยให้คุณฝึกฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาค้นพบกันเลย! I. ประโยคปฏิเสธ ภาษาอังกฤษคืออะไร? ประโยคปฏิเสธ ภาษาอังกฤษใช้เพื่อแสดงความหมายที่ตรงกันข้ามกับประโยคยืนยัน แสดงถึงการไม่มี ไม่เกิดขึ้น หรือไม่เป็นความจริงของเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง โครงสร้างประโยคปฏิเสธสร้างขึ้นโดยการใช้คำปฏิเสธ เช่น "not", "no", "never", "none", ร่วมกับองค์ประกอบอื่นๆ ในประโยค ตัวอย่างใหม่: My brother does not play...
Preposition of Place

คำบุพบทที่บ่งบอกที่ตั้ง (Preposition Of Place): คำนิยามและวิธีการใช้งาน

0
Preposition of Place เป็นหัวข้อไวยากรณ์ที่สำคัญในภาษาอังกฤษ ช่วยให้ผู้เรียนสามารถบรรยายตำแหน่งหรือที่ตั้งของวัตถุและเหตุการณ์ได้อย่างแม่นยำ การเข้าใจการใช้งานเหล่านี้เป็นพื้นฐานที่จะช่วยให้คุณสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วและธรรมชาติยิ่งขึ้น บทความนี้จะให้ความรู้เกี่ยวกับ Preposition of Place อย่างละเอียด ไปดูกันเลย! I. Preposition of Place คืออะไร? Preposition of Place เป็นคำหรือวลีที่ใช้เพื่อเชื่อมโยงคำนามหรือสรรพนามกับตำแหน่งที่ตั้งที่เฉพาะเจาะจงในพื้นที่ ช่วยให้ผู้ฟังหรือผู้อ่านเข้าใจตำแหน่งของวัตถุหรือเหตุการณ์ที่กล่าวถึงในประโยคได้ดียิ่งขึ้น ตัวอย่าง: The book is on...

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

โพสต์ใหม่

12 Phrasal Verbs กับ Break ที่คุณต้องรู้ ใช้ง่าย เข้าใจไว!

Vocabulary
Read more