กาลอนาคตง่าย (Simple Future Tense): สูตร, วิธีการใช้ และการฝึกฝน

คุณกำลังศึกษาเกี่ยวกับกาลอนาคตง่าย (Simple Future Tense) ในภาษาอังกฤษหรือไม่? บทความนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้าง, วิธีการใช้, สัญญาณที่จะรู้, การแยกความแตกต่างจากกาลอนาคตใกล้ และการฝึกฝนเพื่อให้คุณเข้าใจหัวข้อนี้อย่างถ่องแท้ มาเริ่มกันเลย!

Simple Future Tense
Simple Future Tense

I. กาลอนาคตง่ายคืออะไร?

กาลอนาคตง่าย (Simple Future Tense) ใช้แสดงถึงการกระทำที่จะเกิดขึ้นหลังจากเวลาพูดหรือในจุดหนึ่งของอนาคต กาลนี้ยังใช้เพื่อแสดงความปรารถนาหรือการคาดการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ตัวอย่างการใช้กาลอนาคตง่ายในภาษาอังกฤษ:

  • Will you help me with this project? (คุณช่วยฉันกับโปรเจ็คนี้ได้ไหม?)
  • He believes that he will find a solution soon. (เขาเชื่อว่าเขาจะหาทางออกได้เร็วๆ นี้)
กาลอนาคตง่ายคืออะไร?
กาลอนาคตง่ายคืออะไร?

II. โครงสร้างของกาลอนาคตง่ายในภาษาอังกฤษ

1. ประโยคยืนยัน

โครงสร้างสำหรับกริยา ‘to be’ ในกาลอนาคตง่าย:

S + will + be + N/Adj

ตัวอย่าง:

  • The weather will be warm tomorrow. (อากาศพรุ่งนี้จะอบอุ่น)
  • They will be at the beach by noon. (พวกเขาจะอยู่ที่ชายหาดภายในเที่ยงวัน)

สำหรับกริยาทั่วไป, ใช้โครงสร้าง:

S + will + V-infinitive

ตัวอย่าง:

  • She will visit her grandparents next weekend. (เธอจะไปเยี่ยมปู่ย่าตายายในสุดสัปดาห์หน้า)
  • We will have a meeting about this issue. (เราจะมีการประชุมเกี่ยวกับปัญหานี้)

2. ประโยคปฏิเสธ

สำหรับกริยา ‘to be’: S + will not + be + N/Adj

ตัวอย่าง:

  • The seminar will not be held tomorrow. (การสัมมนาจะไม่จัดขึ้นพรุ่งนี้)
  • You will not be disappointed with the results. (คุณจะไม่ผิดหวังกับผลลัพธ์)

สำหรับกริยาทั่วไป: S + will not + V-infinitive

ตัวอย่าง:

  • They won’t go to the cinema tonight. (พวกเขาจะไม่ไปโรงหนังคืนนี้)
  • He won’t buy that car, it’s too expensive. (เขาจะไม่ซื้อรถคันนั้น, มันแพงเกินไป)

3. ในประโยคคำถาม

คำถามแบบ Yes/No question

กาลอนาคตง่ายสำหรับกริยา ‘to be’: Will + S + be +… ? → Yes, S + will / No, S + won’t

ตัวอย่าง:

  • Will it be cold tomorrow? (พรุ่งนี้จะหนาวไหม?) → Yes, it will. (ใช่, มันจะหนาว)/ No, it won’t. (ไม่, มันจะไม่หนาว)

สำหรับกริยาทั่วไป: Will + S + V-infinitive? → Yes, S + will / No, S + won’t

ตัวอย่าง:

  • Will she arrive on time? (เธอจะมาถึงตรงเวลาไหม?)
  • Will they complete the task? (พวกเขาจะทำงานนั้นเสร็จไหม?)

คำถามแบบ

Wh- question Wh-word + will + S + V-infinitive? → S + will + V-infinitive

ตัวอย่าง:

  • What will Tom do this weekend? (ทอมจะทำอะไรในสุดสัปดาห์นี้?) → He will go fishing. (เขาจะไปตกปลา)
  • Where will they celebrate their anniversary? (พวกเขาจะฉลองครบรอบที่ไหน?) → They will go to a fancy restaurant. (พวกเขาจะไปที่ร้านอาหารหรู)
โครงสร้างของกาลอนาคตง่ายในภาษาอังกฤษ
โครงสร้างของกาลอนาคตง่ายในภาษาอังกฤษ

III. วิธีการใช้กาลอนาคตง่าย (Future Simple Tense)

  • แสดงการตัดสินใจที่เวลาพูด

ตัวอย่าง:

A: I’m getting a bit cold. (ฉันเริ่มรู้สึกหนาวนิดหน่อย)

B: I will turn off the air conditioner. (ฉันจะปิดเครื่องปรับอากาศ)

  • แสดงการคาดการณ์โดยไม่มีหลักฐานชัดเจน

ตัวอย่าง: Look at the sky getting darker. It looks like it will rain soon. (ดูท้องฟ้าที่เริ่มมืดลง ดูเหมือนว่ามันจะฝนตกในไม่ช้า)

  • ใช้เพื่อแสดงคำเชิญหรือคำขอ

ตัวอย่าง: Will you come to my birthday party tomorrow? (คุณจะมางานวันเกิดของฉันพรุ่งนี้ไหม?)

  • แสดงคำมั่นสัญญา

ตัวอย่าง: Will you help me with my project? I promise I will return the favor. (คุณจะช่วยฉันกับโปรเจ็คนี้ไหม? ฉันสัญญาว่าจะตอบแทนคุณ)

  • แสดงคำเตือน

ตัวอย่าง: Drive safely or you will have an accident. (ขับขี่อย่างปลอดภัยไม่งั้นคุณจะประสบอุบัติเหตุ)

  • แสดงข้อเสนอช่วยเหลือ

ตัวอย่าง: Shall I help you with your luggage? (ฉันจะช่วยคุณถือกระเป๋าได้ไหม?)

  • แสดงข้อเสนอแนะ

ตัวอย่าง: Shall we take a short break? (เราจะพักเบรกสั้นๆ กันไหม?)

  • ใช้ในประโยคเงื่อนไขประเภทที่ 1

ตัวอย่าง: If you save enough money, you will be able to buy that car. (ถ้าคุณออมเงินเพียงพอ คุณจะสามารถซื้อรถคันนั้นได้)

IV. สัญญาณที่จะรู้จักกาลอนาคตง่าย (Simple future tense)

คุณสามารถรู้จักกาลอนาคตง่ายได้จากคุณลักษณะต่อไปนี้:

ประโยคที่มีคำบอกเวลา:

  • In + (time period): ในระยะเวลา
  • Next day/ next week/ next month/ next year: วันถัดไป/ สัปดาห์ถัดไป/ เดือนถัดไป/ ปีถัดไป
  • Tomorrow: วันพรุ่งนี้
  • Soon: ในไม่ช้า

ประโยคที่มีกริยาที่แสดงความคิดเห็น เช่น: think/ suppose/ believe/ guess, promise, hope, expect…

หรือคำบอกเล่า: perhaps, probably, maybe, supposedly…

ตัวอย่าง:

  • Next month, they will launch a new marketing campaign. (เดือนหน้า พวกเขาจะเปิดตัวแคมเปญการตลาดใหม่)
  • The results of the survey will be published soon. (ผลการสำรวจจะถูกเผยแพร่เร็วๆ นี้)
  • Maybe we will go out for dinner tonight. (บางทีเราอาจจะไปทานข้าวนอกบ้านคืนนี้)
  • Supposedly, the team will receive new equipment next week. (คาดว่าทีมจะได้รับอุปกรณ์ใหม่ในสัปดาห์หน้า)
  • Jessica promises she will take care of the problem. (เจสสิก้าสัญญาว่าเธอจะดูแลปัญหานี้)
สัญญาณที่จะรู้จักกาลอนาคตง่าย (Simple future tense)
สัญญาณที่จะรู้จักกาลอนาคตง่าย (Simple future tense)

V. การแยกความแตกต่างระหว่าง Future Simple Tense และ Near Future Tense

หลายคนยังคงสับสนระหว่างโครงสร้างกาลอนาคตง่าย (Will) และกาลอนาคตใกล้ (Be going to) ในการแยกแยะสองกาลนี้ คุณต้องใส่ใจกับปัจจัยต่อไปนี้:

Simple Future Tense Near Future Tense
กาลอนาคตง่ายใช้เพื่ออธิบายการกระทำที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติที่เวลาพูดโดยไม่มีหลักฐานหรือเหตุผลที่ชัดเจน

โครงสร้าง: S + will + V-inf

ตัวอย่าง: I think it will snow tonight. (ฉันคิดว่าคืนนี้จะมีหิมะตก)

กาลอนาคตใกล้ (Be going to) ใช้เพื่ออธิบายการกระทำที่ได้วางแผนไว้และมีกำหนดการชัดเจนก่อนเวลาพูด มีหลักฐานหรือเหตุผลที่ชัดเจน

โครงสร้าง: S + be + going to + V-inf

ตัวอย่าง: We are going to watch a movie this evening. (เราจะไปดูหนังในเย็นนี้)

VI. การฝึกฝนเกี่ยวกับ Simple Future Tense

แบบฝึกหัดที่ 1: ใส่คำกริยาในวงเล็บในกาลอนาคตที่เรียบง่าย

  1. I (visit) my grandparents next weekend.
  2. We (go) to the beach on Sunday.
  3. She (not come) to the party tonight.
  4. They (study) hard for the final exam.
  5. What time (you/get up) tomorrow?

แบบฝึกหัดที่ 2: จัดเรียงคำต่อไปนี้ให้เป็นประโยคที่สมบูรณ์

  1. I / to / the / supermarket / go / will
  2. She / not / come / will / the / party / to
  3. They / next / week / on / vacation / go / will
  4. What / you / do / will / weekend / this
  5. I / after / call / you / will / work / I
คำตอบ:

แบบฝึกหัดที่ 1:

  1. will visit
  2. will go
  3. won’t come
  4. will study
  5. will you get up

แบบฝึกหัดที่ 2:

  1. I will go to the supermarket.
  2. She will not come to the party.
  3. They will go on vacation next week.
  4. What will you do this weekend?
  5. I will call you after I work.

นี่คือการสรุปความรู้เกี่ยวกับกาลอนาคตง่าย (Simple Future Tense) Theieltsclub หวังว่าข้อมูลที่ได้แบ่งปันจะช่วยให้คุณเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานของรูปแบบนี้ แค่ตั้งใจฝึกฝนทุกวัน คุณจะสามารถทำผลงานได้ดีในการเรียนแน่นอน!

Rate this post
Ellie
Ellie
ฉันชื่อเอลลี - นักรบ IELTS 6.5! ด้วยความรู้ว่าการเดินทางเพื่อพิชิต IELTS นั้นยากมาก ฉันจึงอยากแบ่งปันความรู้ เอกสาร และประสบการณ์อันมีค่าทั้งหมดของฉันกับทุกคนที่รักความฝันที่จะพิชิต IELTS มา "บดขยี้" IELTS ไปด้วยกัน!

รายการบทความ

บางทีคุณอาจสนใจ

Past Perfect Continuous

เรียนรู้รายละเอียด Past Perfect Continuous Tense ในภาษาอังกฤษ

0
คุณกำลังพบปัญหาในการใช้ Past Perfect Continuous ในภาษาอังกฤษหรือไม่? บทความนี้จะให้ข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดเกี่ยวกับรูปแบบนี้ ตั้งแต่คำนิยาม โครงสร้าง วิธีการใช้ สัญญาณในการตรวจสอบ ไปจนถึงตัวอย่างและแบบฝึกหัดที่ใช้งานได้ มาค้นพบกันเลยเพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของคุณ! I. Past Perfect Continuous คืออะไร? Past Perfect Continuous เป็นรูปเวลาหนึ่งในภาษาอังกฤษที่ใช้แสดงถึงการกระทำที่เริ่มต้นในอดีต ดำเนินต่อเนื่องไปสักระยะหนึ่งและสิ้นสุดลงในช่วงเวลาหนึ่งในอดีต ตัวอย่างการใช้ Past Perfect Continuous: I...
Modal verbs

Modal verbs คืออะไร? วิธีการใช้กริยาช่วยและแบบฝึกหัดพร้อมคำตอบ

0
คุณกำลังประสบปัญหาในการเรียนรู้ Modal verbs - กริยาช่วยในภาษาอังกฤษหรือไม่? บทความนี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยคุณเอาชนะหัวข้อไวยากรณ์สำคัญนี้อย่างมีประสิทธิภาพ มาร่วมค้นพบความรู้และแบบฝึกหัดที่มีประโยชน์เกี่ยวกับ Modal verbs กันเลย! I. Modal Verbs มีอะไรบ้าง? กริยาช่วย (Modal Verbs) หรือที่เรียกว่า กริยาช่วยหรือกริยาแสดงความรู้สึก มีหน้าที่แสดงความจำเป็นและหมายความในประโยค รวมถึงความสามารถ การอนุญาต ความจำเป็น การคาดการณ์ และอื่นๆ ประกอบด้วย...
ประโยคปฏิเสธ ภาษาอังกฤษ

10+ โครงสร้างประโยคปฏิเสธภาษาอังกฤษที่ใช้กันทั่วไป

0
คุณกำลังประสบปัญหาในการใช้ประโยคปฏิเสธ ภาษาอังกฤษหรือไม่? บทความนี้จะเป็นคู่มือที่มีประโยชน์สำหรับคุณ โดยให้ข้อมูลครบถ้วนเกี่ยวกับโครงสร้างประโยคปฏิเสธที่พบบ่อยที่สุดพร้อมแบบฝึกหัดใช้งานเพื่อช่วยให้คุณฝึกฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาค้นพบกันเลย! I. ประโยคปฏิเสธ ภาษาอังกฤษคืออะไร? ประโยคปฏิเสธ ภาษาอังกฤษใช้เพื่อแสดงความหมายที่ตรงกันข้ามกับประโยคยืนยัน แสดงถึงการไม่มี ไม่เกิดขึ้น หรือไม่เป็นความจริงของเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง โครงสร้างประโยคปฏิเสธสร้างขึ้นโดยการใช้คำปฏิเสธ เช่น "not", "no", "never", "none", ร่วมกับองค์ประกอบอื่นๆ ในประโยค ตัวอย่างใหม่: My brother does not play...
If Clause Type 0

ประโยค If Clause Type 0 (Zero conditional): สูตร, การใช้งาน, แบบฝึกหัด

0
คุณกำลังศึกษาเกี่ยวกับ If Clause Type 0 - หนึ่งในโครงสร้างประโยคเงื่อนไขที่สำคัญในภาษาอังกฤษ? บทความนี้จะให้ความรู้เต็มรูปแบบเกี่ยวกับโครงสร้าง, การใช้งาน และแบบฝึกหัดเกี่ยวกับ If Clause Type 0 เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างชำนาญในการสื่อสารและการเขียน มาติดตามกันเลย! I. ประโยค If Clause Type 0 คืออะไร? If Clause Type...
Preposition of Place

คำบุพบทที่บ่งบอกที่ตั้ง (Preposition Of Place): คำนิยามและวิธีการใช้งาน

0
Preposition of Place เป็นหัวข้อไวยากรณ์ที่สำคัญในภาษาอังกฤษ ช่วยให้ผู้เรียนสามารถบรรยายตำแหน่งหรือที่ตั้งของวัตถุและเหตุการณ์ได้อย่างแม่นยำ การเข้าใจการใช้งานเหล่านี้เป็นพื้นฐานที่จะช่วยให้คุณสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วและธรรมชาติยิ่งขึ้น บทความนี้จะให้ความรู้เกี่ยวกับ Preposition of Place อย่างละเอียด ไปดูกันเลย! I. Preposition of Place คืออะไร? Preposition of Place เป็นคำหรือวลีที่ใช้เพื่อเชื่อมโยงคำนามหรือสรรพนามกับตำแหน่งที่ตั้งที่เฉพาะเจาะจงในพื้นที่ ช่วยให้ผู้ฟังหรือผู้อ่านเข้าใจตำแหน่งของวัตถุหรือเหตุการณ์ที่กล่าวถึงในประโยคได้ดียิ่งขึ้น ตัวอย่าง: The book is on...

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

โพสต์ใหม่

10+ โครงสร้างประโยคปฏิเสธภาษาอังกฤษที่ใช้กันทั่วไป

Grammar
Read more