The IELTS Club x Prepedu

Reflexive Pronouns คืออะไร? ทำความเข้าใจและการใช้ Reflexive Pronouns ในภาษาอังกฤษ

ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Reflexive Pronouns หรือ คำสรรพนามสะท้อนกลับ โดยอธิบายการใช้งานในแต่ละกรณี เช่น การทำหน้าที่เป็นกรรมในประโยค การใช้ร่วมกับคำบุพบท และการใช้เพื่อเน้นการกระทำของประธาน พร้อมตัวอย่างที่ช่วยให้เข้าใจการใช้ได้ง่ายยิ่งขึ้น

I. Reflexive Pronouns คืออะไร

Reflexive Pronouns คืออะไร

Reflexive Pronouns หรือ คำสรรพนามสะท้อนกลับ คือคำที่ใช้แทนคำนามในประโยคเพื่อแสดงการกระทำที่กลับมาที่ตัวผู้กระทำเอง โดยทั่วไปจะประกอบไปด้วยคำเหล่านี้:

  • I → myself (ของฉันเอง) (ตัวอย่าง: I made this cake myself. – ฉันทำเค้กนี้เอง)
  • You → yourself (ของคุณเอง) (ตัวอย่าง: You should take care of yourself. – คุณควรดูแลตัวเอง)
  • He → himself (ของเขาเอง) (ตัวอย่าง: He fixed the car himself. – เขาซ่อมรถเอง)
  • She → herself (ของเธอเอง) (ตัวอย่าง: She bought the dress herself. – เธอซื้อชุดเอง)
  • It → itself (ของมันเอง) (ตัวอย่าง: The cat cleaned itself. – แมวทำความสะอาดตัวเอง)
  • We → ourselves (ของพวกเราเอง) (ตัวอย่าง: We enjoyed the meal ourselves. – พวกเราสนุกกับมื้ออาหารด้วยตัวเอง)
  • You → yourselves (ของพวกคุณเอง) (ตัวอย่าง: You should all present yourselves confidently. – พวกคุณทุกคนควรแสดงตัวเองอย่างมั่นใจ)
  • They → themselves (ของพวกเขาเอง) (ตัวอย่าง: They managed to complete the project themselves. – พวกเขาจัดการทำโปรเจกต์เสร็จเอง)

II. ตำแหน่งที่ใช้ Reflexive Pronouns ในประโยค

Reflexive Pronouns (คำสรรพนามสะท้อนกลับ) ใช้ในตำแหน่งต่างๆ ในประโยคเพื่อแสดงการกระทำที่กลับมาที่ตัวผู้กระทำเอง หรือเพื่อเน้นย้ำการกระทำ โดยในแต่ละตำแหน่งการใช้งานจะมีลักษณะเฉพาะ ดังนี้:

1. ตำแหน่งที่ Reflexive Pronouns ใช้หลังคำกริยา (Verb)

เมื่อ Reflexive Pronouns ใช้หลังคำกริยา (Verb), มักใช้เพื่อแสดงถึงการกระทำที่ผู้กระทำกระทำกับตัวเอง หรือการทำบางสิ่งด้วยตัวเอง

ตัวอย่าง:

  • She washed herself after the workout.
    (เธอล้างตัวเองหลังการออกกำลังกาย)
  • I taught myself how to cook.
    (ฉันสอนตัวเองทำอาหาร)

ในกรณีนี้ Reflexive Pronoun เป็นตัวแทนของผู้กระทำที่ทำการกระทำกับตัวเอง

2. ตำแหน่งที่ Reflexive Pronoun ใช้หลังคำนามและทำหน้าที่เป็นประธาน (Noun + Reflexive Pronoun as Subject)

เมื่อ Reflexive Pronoun ใช้หลังคำนามและทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค จะช่วยเน้นว่าใครเป็นผู้กระทำและได้รับผลกระทบจากการกระทำนี้เอง

ตัวอย่าง:

  • John himself fixed the car.
    (จอห์น เอง ที่ซ่อมรถ)
  • The CEO herself made the final decision.
    (ซีอีโอ เอง ที่ตัดสินใจขั้นสุดท้าย)

ในกรณีนี้ Reflexive Pronoun ถูกใช้เพื่อเน้นว่าเป็นผู้กระทำที่ตัวเองรับผิดชอบในการกระทำที่เกิดขึ้น

3. ตำแหน่งที่ Reflexive Pronoun ใช้หลังคำบุพบท (Prepositions)

เมื่อ Reflexive Pronoun ใช้หลังคำบุพบท (Preposition) มักจะใช้เพื่อแสดงการกระทำที่กลับมาที่ตัวผู้กระทำเอง ซึ่งมักจะมีการแสดงถึงสถานที่หรือการกระทำที่เกิดขึ้นกับตัวผู้กระทำ

ตัวอย่าง:

  • She took care of herself during the illness.
    (เธอดูแลตัวเองในระหว่างที่ป่วย)
  • He is proud of himself for completing the project.
    (เขาภูมิใจในตัวเองที่ทำโปรเจ็กต์เสร็จ)

ตำแหน่งที่ใช้ Reflexive Pronouns ในประโยค

ในกรณีนี้ Reflexive Pronoun จะตามหลังคำบุพบทเพื่อแสดงว่าเรื่องราวหรือการกระทำเกิดขึ้นกับตัวผู้กระทำเอง

4. ตำแหน่งที่ Reflexive Pronoun ใช้ที่ท้ายประโยค (Reflexive Pronoun at the End of a Sentence)

Reflexive Pronoun สามารถใช้ที่ท้ายประโยคเพื่อเน้นการกระทำที่มุ่งกลับมาที่ตัวผู้กระทำเอง โดยเฉพาะเมื่อใช้กับคำกริยาและต้องการให้เน้นการกระทำที่เกิดขึ้นกับตัวเอง

ตัวอย่าง:

  • He completed the task himself.
    (เขาทำงานนั้นเสร็จ เอง)
  • She fixed the broken chair herself.
    (เธอซ่อมเก้าอี้ที่เสีย เอง)

ในกรณีนี้ Reflexive Pronoun ถูกใช้ที่ท้ายประโยคเพื่อเน้นย้ำว่าเป็นผู้กระทำที่ทำการกระทำด้วยตัวเอง

อ้างอิง: 

III. วิธีการใช้ Reflexive Pronoun

Reflexive Pronouns หรือคำสรรพนามสะท้อนกลับมีหลากหลายวิธีการใช้งานในประโยค โดยแต่ละกรณีสามารถแสดงถึงการกระทำที่ย้อนกลับไปยังตัวผู้กระทำเอง หรือใช้เน้นย้ำการกระทำหรือสถานการณ์ต่างๆ ในประโยค

1. Reflexive Pronouns ทำหน้าที่เป็นกรรมในประโยค (Object of the Verb)

หนึ่งในกรณีการใช้ Reflexive Pronouns คือการทำหน้าที่เป็นกรรมของคำกริยา (verb) ในประโยค เมื่อผู้กระทำทำการกระทำกับตัวเองหรือผลกระทบจากการกระทำนั้นย้อนกลับไปที่ตัวผู้กระทำเอง

ตัวอย่าง:

  • She looked at herself in the mirror.
    (เธอมองตัวเองในกระจก)
  • I hurt myself while cooking.
    (ฉันทำร้ายตัวเองระหว่างทำอาหาร)

ในกรณีนี้ Reflexive Pronoun ใช้เป็นกรรมของคำกริยาและแสดงถึงการกระทำที่เกิดขึ้นกับตัวผู้กระทำเอง

2. Reflexive Pronouns ทำหน้าที่เป็นกรรมของคำบุพบท (Object of the Preposition)

Reflexive Pronouns ยังสามารถทำหน้าที่เป็นกรรมของคำบุพบท (preposition) ที่ตามหลังคำบุพบท เพื่อแสดงการกระทำที่สะท้อนกลับไปยังตัวผู้กระทำเอง

ตัวอย่าง:

  • He is talking about himself.
    (เขากำลังพูดถึงตัวเอง)
  • She took care of herself after the surgery.
    (เธอดูแลตัวเองหลังการผ่าตัด)

ในกรณีนี้ Reflexive Pronoun ตามหลังคำบุพบท เช่น about, of, with เพื่อแสดงว่าการกระทำที่เกิดขึ้นมีผลกับตัวผู้กระทำเอง

3. Reflexive Pronouns ใช้เพื่อเน้นการกระทำของประธาน (Emphasizing the Subject)

Reflexive Pronouns ใช้ในการเน้นการกระทำของประธานในประโยค เพื่อแสดงว่าเป็นผู้กระทำหรือเป็นคนเดียวที่ทำสิ่งนั้นโดยไม่ต้องการการช่วยเหลือจากใคร

ตัวอย่าง:

  • I myself will handle the situation.
    (ฉัน เอง จะจัดการสถานการณ์นี้)
  • They themselves decided to cancel the meeting.
    (พวกเขา เอง ตัดสินใจยกเลิกการประชุม)

ในกรณีนี้ Reflexive Pronouns ใช้เพื่อเน้นว่าเป็นผู้กระทำหรือบุคคลที่ทำการกระทำด้วยตัวเอง

4. ใช้ร่วมกับคำบุพบท “by” เมื่อต้องการเน้นว่าบุคคลนั้นอยู่คนเดียวหรือไม่มีใครช่วยเหลือ (Using “by” to Emphasize Doing Something Alone)

เมื่อใช้ Reflexive Pronouns ร่วมกับคำบุพบท “by”, จะใช้เพื่อเน้นว่าบุคคลนั้นทำการกระทำโดยลำพังหรือไม่ได้รับความช่วยเหลือจากผู้อื่น

ตัวอย่าง:

  • She built the house by herself.
    (เธอสร้างบ้าน เอง โดยไม่มีใครช่วย)
  • He completed the project by himself.
    (เขาทำโปรเจกต์ให้เสร็จ เอง โดยไม่ได้รับความช่วยเหลือ)

ในกรณีนี้, การใช้ “by” กับ Reflexive Pronouns ช่วยเน้นย้ำว่าไม่มีใครช่วยเหลือหรือเกี่ยวข้องในการกระทำ

IV. แบบฝึกหัด Reflexive Pronouns พร้อมคำตอบ

มาลองฝึกการใช้ Reflexive Pronouns กับแบบฝึกหัดกัน!

คำถาม:

  1. He cooked dinner __________. (himself)
  2. She didn’t do the homework __________. (herself)
  3. We should learn how to manage our time __________. (ourselves)
  4. I will finish this task __________. (myself)
  5. The children made lunch __________. (themselves)

คำตอบ:

  1. He cooked dinner himself.
  2. She didn’t do the homework herself.
  3. We should learn how to manage our time ourselves.
  4. I will finish this task myself.
  5. The children made lunch themselves.

Reflexive Pronouns หรือ คำสรรพนามสะท้อนกลับ เป็นคำที่ใช้เพื่อแสดงการกระทำที่ย้อนกลับมาที่ตัวผู้กระทำเอง โดยการใช้ในประโยคมีทั้งในรูปเอกพจน์และพหูพจน์ การใช้ Reflexive Pronouns ในประโยคช่วยเพิ่มความชัดเจนและความหลากหลายในการสื่อสาร คำเหล่านี้สำคัญในการแสดงการกระทำที่เกิดขึ้นกับตัวผู้กระทำเองและสามารถใช้เพื่อเน้นการกระทำในหลายๆ สถานการณ์

Rate this post
The IELTS Club x Prepedu

เนื้อหาหลัก

รายการบทความ

บางทีคุณอาจสนใจ

If Clause Type 0

เจาะลึก If Clause Type 0 (Zero Conditional): ประโยคเงื่อนไข “ความจริงแท้” ที่ต้องรู้ โครงสร้าง วิธีใช้ ตัวอย่างครบ

0
คุณกำลังศึกษาเกี่ยวกับ If Clause Type 0 - หนึ่งในโครงสร้างประโยคเงื่อนไขที่สำคัญในภาษาอังกฤษ? บทความนี้จะให้ความรู้เต็มรูปแบบเกี่ยวกับโครงสร้าง, การใช้งาน และแบบฝึกหัดเกี่ยวกับ If Clause Type 0 เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างชำนาญในการสื่อสารและการเขียน มาติดตามกันเลย! I. If Clause Type 0 คืออะไร? ทำความเข้าใจแก่นแท้ของประโยคเงื่อนไขแบบศูนย์ If clause type...
If Clause Type 3

If Clause Type 3 (ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 3): โครงสร้าง วิธีใช้ ตัวอย่าง เข้าใจง่ายในหน้าเดียว!

0
ประโยคเงื่อนไข (If Clause) เป็นโครงสร้างทางไวยากรณ์ที่สำคัญในภาษาอังกฤษ ช่วยให้เราสื่อสารความสัมพันธ์ระหว่าง "เงื่อนไข" กับ "ผลลัพธ์" ได้อย่างชัดเจน ในภาษาอังกฤษมีประโยคเงื่อนไขหลายประเภท ได้แก่ Type 0 (ความจริงทั่วไป), Type 1 (ความเป็นไปได้ในอนาคต), Type 2 (สถานการณ์สมมติในปัจจุบัน), Type 3 (สถานการณ์สมมติในอดีต) และ...
Modal verbs

Modal Verb คืออะไร? สรุปหลักการใช้กริยาช่วย เข้าใจง่าย ฉบับสมบูรณ์

0
ในการสื่อสารภาษาอังกฤษให้มีมิติลึกซึ้ง คุณจำเป็นต้องเข้าใจเครื่องมือสำคัญอย่าง Modal Verb คือ "กริยาช่วยชนิดพิเศษ" ที่เพิ่มความหมายให้ประโยคของคุณมีรายละเอียดมากขึ้น Modal verb คือกุญแจที่ช่วยให้คุณสื่อสารได้ตรงจุดประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงความสามารถ บอกความเป็นไปได้ หรือขออนุญาต การเข้าใจ modal verb คือการเปิดประตูไปสู่การใช้ภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้คุณสื่อเจตนา อารมณ์ และทัศนคติได้อย่างแม่นยำในทุกบริบทการสนทนา บทความนี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยคุณเอาชนะหัวข้อไวยากรณ์สำคัญนี้อย่างมีประสิทธิภาพ มาร่วมค้นพบความรู้และแบบฝึกหัดที่มีประโยชน์เกี่ยวกับ Modal verbs กันเลย! I....
If Clause Type 1

If Clause Type 1 (First Conditional): โครงสร้าง วิธีใช้ ตัวอย่าง แบบฝึกหัด และข้อควรระวัง ฉบับสมบูรณ์

0
คุณต้องการที่จะเชี่ยวชาญไวยากรณ์ภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่? มาค้นพบ "If Clause Type 1" - ประโยคเงื่อนไขประเภท 1, หัวข้อสำคัญในการสื่อสารภาษาอังกฤษ บทความนี้จะให้ความรู้ที่ครบถ้วนเกี่ยวกับโครงสร้าง, การใช้งาน, คำแนะนำต่างๆ และรูปแบบการเปลี่ยนแปลงของ If Clause Type 1, ช่วยให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างชำนาญในทุกสถานการณ์ อย่าพลาดบทความที่มีประโยชน์นี้นะ! I. If Clause Type 1...
If Clause Type 2

ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 2 (If Clause Type 2): คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับคนไทย เข้าใจง่าย ใช้ได้จริง

0
คุณกำลังพบปัญหาในการใช้ "If Clause Type 2" (ประโยคเงื่อนไขประเภท 2) ในภาษาอังกฤษหรือไม่? บทความนี้จะให้ความรู้เกี่ยวกับโครงสร้าง, การใช้งาน, การแปรผัน และแบบฝึกหัดที่เกี่ยวข้องกับประเภทประโยคเงื่อนไขนี้แก่คุณ มาค้นพบกันเลยเพื่อเพิ่มพูนทักษะภาษาอังกฤษของคุณ! I. If Clause Type 2 คืออะไร? If clause type 2 คือประโยคเงื่อนไขที่ใช้พูดถึงสถานการณ์ที่ "ตรงข้ามกับความเป็นจริงในปัจจุบัน" หรือ...

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

โพสต์ใหม่

ความแตกต่างระหว่าง because กับ because of และการใช้ในภาษาอังกฤษ

Grammar
Read more