Phrasal Verbs คือส่วนสำคัญในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่ช่วยให้การสื่อสารดูเป็นธรรมชาติและชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งในบทสนทนาและงานเขียน มาเรียนรู้ความหมาย วิธีการใช้ และตัวอย่างที่เข้าใจง่าย เพื่อเพิ่มทักษะภาษาอังกฤษของคุณให้ก้าวกระโดด!
I. Phrasal Verb (กริยาวลี) คืออะไร?
Phrasal Verb หรือกริยาวลีในภาษาอังกฤษ คือการผสมผสานระหว่าง คำกริยา (Verb) กับ คำบุพบท (Preposition) หรือ คำวิเศษณ์ (Adverb) เพื่อสร้างความหมายใหม่ที่แตกต่างจากความหมายเดิมของคำกริยานั้นๆ โดย Phrasal Verb มีบทบาทสำคัญในการทำให้การสื่อสารมีความเป็นธรรมชาติและลื่นไหลมากขึ้น ซึ่งพบได้บ่อยทั้งในการพูดและการเขียนในภาษาอังกฤษ
ตัวอย่าง:
- Look after (ดูแล)
ตัวอย่าง: She looks after her younger brother.
(เธอดูแลน้องชายของเธอ) - Break up (เลิกกัน)
ตัวอย่าง: They decided to break up after 3 years.
(พวกเขาตัดสินใจเลิกกันหลังจากคบกันมา 3 ปี)
II. ลักษณะและหลักการใช้ Phrasal Verb
1. Transitive หรือ Intransitive: ความแตกต่างระหว่างสกรรมกริยาและอกรรมกริยา
การเข้าใจความแตกต่างระหว่างสกรรมกริยา (Transitive Verbs) และอกรรมกริยา (Intransitive Verbs) เป็นสิ่งสำคัญในการใช้ Phrasal Verb อย่างถูกต้อง
สกรรมกริยา (Transitive Verbs)
ต้องการวัตถุหรือบุคคลหลังคำกริยา
ตัวอย่าง: Phrasal Verb “run into”
- ไม่ถูกต้อง: “At the party, I ran into. It was unexpected!”
- ถูกต้อง: “At the party, I ran into my old teacher. It was unexpected!”
ข้อยกเว้น: บางครั้งในการสนทนา คุณอาจไม่ต้องระบุชื่อ
- ตัวอย่าง: “I was walking down the street. Guess who I ran into?”
อกรรมกริยา (Intransitive Verbs)
สามารถยืนอยู่คนเดียวในประโยคได้
ตัวอย่าง: Phrasal Verb “show up”
- He didn’t show up at the meeting.
- Will you show up for the celebration?
- They promised to show up, but never did.
กรณีพิเศษ: Phrasal Verb ที่มีทั้งสองลักษณะ
ตัวอย่าง: “give up”
- Intransitive: Don’t give up! (อย่ายอมแพ้)
- Transitive: I gave up my old hobby. (ฉันสละงานอดิเรกเก่า)
2. กริยาวลีที่แยกกันได้ (Separable) และแยกกันไม่ได้ (Inseparable)
กริยาวลีที่แยกกันได้
สามารถแทรกคำระหว่าง Verb และ Particle ได้
ตัวอย่าง: “turn down”
- I turn down the volume.
- I turn the volume down.
กริยาวลีที่แยกกันไม่ได้
ไม่สามารถแยก Verb และ Particle ออกจากกันได้
ตัวอย่าง: “get along with”
- ถูกต้อง: I get along well with my colleagues.
- ไม่ถูกต้อง: I get with along my colleagues.
ข้อควรจำ
- การทำความเข้าใจลักษณะของ Phrasal Verb จะช่วยให้คุณใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องและมั่นใจมากขึ้น เมื่อเรียน Phrasal Verb ควรศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ:
- ลักษณะ Transitive และ Intransitive
- ความสามารถในการแยก Particle (Separable/Inseparable)
III. สรุปการใช้ Phrasal Verb
Phrasal Verb เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการสื่อสารภาษาอังกฤษ ช่วยให้การสนทนามีชีวิตชีวาและเป็นธรรมชาติมากขึ้น การฝึกฝนและทำความเข้าใจอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คุณใช้ Phrasal Verb ได้อย่างคล่องแคล่วและมั่นใจ
เคล็ดลับพิเศษ
- อย่ากลัวที่จะทำผิด: การเรียนรู้ภาษาต้องผ่านการลองผิดลองถูก
- ฟังและสังเกต: การฟังเจ้าของภาษาจะช่วยให้คุณเข้าใจการใช้ Phrasal Verb มากขึ้น
IV. Phrasal Verbs ที่พบบ่อยบางคำ
- Phrasal Verbs with “Fall”
Fall แปลว่า “ตก” แต่เมื่อรวมกับคำอื่น ๆ ความหมายจะเปลี่ยนไป
Phrasal Verb | ความหมาย | ตัวอย่างประโยค | แปลไทย |
Fall apart | แตกเป็นชิ้น ๆ, พัง | The cake fell apart when I tried to cut it. | เค้กแตกเป็นชิ้น ๆ เมื่อฉันพยายามตัดมัน |
Fall for | หลงรัก, โดนหลอก | He fell for her at first sight. | เขาหลงรักเธอตั้งแต่แรกเห็น |
Fall behind | ล้าหลัง, ตามไม่ทัน | If you don’t study, you’ll fall behind in class. | ถ้าคุณไม่เรียน คุณจะตามไม่ทันในชั้นเรียน |
- Phrasal Verbs with “Get”
Get มีความหมายพื้นฐานว่า “ได้รับ” แต่เมื่อรวมกับคำอื่น ๆ สามารถสื่อถึงการกระทำที่หลากหลาย
Phrasal Verb | ความหมาย | ตัวอย่างประโยค | แปลไทย |
Get along (with) | เข้ากันได้ดี | She gets along well with her coworkers. | เธอเข้ากันได้ดีกับเพื่อนร่วมงาน |
Get over | ฟื้นตัว, ก้าวผ่าน | It took him weeks to get over the flu. | เขาใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการฟื้นตัวจากไข้หวัด |
Get away | หลบหนี, ไปพักผ่อน | The thief managed to get away from the police. | หัวขโมยสามารถหลบหนีจากตำรวจได้ |
- Phrasal Verbs with “Go”
Go หมายถึง “ไป” แต่สามารถแสดงถึงการกระทำอื่น ๆ เมื่อรวมกับคำต่าง ๆ
Phrasal Verb | ความหมาย | ตัวอย่างประโยค | แปลไทย |
Go on | ดำเนินต่อไป | The meeting went on for three hours. | การประชุมดำเนินต่อไปเป็นเวลา 3 ชั่วโมง |
Go off | ระเบิด, เสียงดัง, เลิกชอบ | The bomb went off in the middle of the city. | ระเบิดระเบิดกลางเมือง |
Go through | ผ่านประสบการณ์, ตรวจสอบ | He went through a difficult time after losing his job. | เขาผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากหลังจากตกงาน |
- Phrasal Verbs with “Look”
Look หมายถึง “มอง” แต่สามารถขยายความหมายได้เมื่อรวมกับคำอื่น
Phrasal Verb | ความหมาย | ตัวอย่างประโยค | แปลไทย |
Look after | ดูแล | She looks after her younger siblings when her parents are at work. | เธอดูแลน้อง ๆ เมื่อพ่อแม่ไปทำงาน |
Look up to | ชื่นชม, เคารพ | I’ve always looked up to my older brother. | ฉันเคารพพี่ชายของฉันเสมอ |
Look forward to | ตั้งหน้าตั้งตารอคอย | I’m looking forward to the holiday next month. | ฉันตั้งหน้าตั้งตารอวันหยุดในเดือนหน้า |
- Phrasal Verbs with “Take”
Take แปลว่า “เอา” หรือ “รับ” แต่สามารถเปลี่ยนความหมายได้เมื่อใช้กับคำอื่น ๆ
Phrasal Verb take | ความหมาย | ตัวอย่างประโยค | แปลไทย |
Take off | ถอด, เครื่องบินขึ้น | Please take off your shoes before entering the house. | กรุณาถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้าน |
Take over | เข้าควบคุม | She took over the project after the manager resigned. | เธอเข้าควบคุมโครงการหลังจากผู้จัดการลาออก |
Take up | เริ่มทำ, ใช้เวลา | He took up painting during the lockdown. | เขาเริ่มวาดภาพระหว่างการล็อกดาวน์ |
การเรียนรู้และใช้งาน Phrasal Verb อย่างถูกต้องไม่เพียงช่วยเพิ่มความเข้าใจในภาษาอังกฤษ แต่ยังทำให้คุณสื่อสารได้อย่างคล่องแคล่วและเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น หมั่นฝึกฝนและนำไปใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อเพิ่มความมั่นใจในทักษะภาษาอังกฤษของคุณ!