รูปแบบอดีตสมบูรณ์แบบ (Past Perfect tense) ในภาษาอังกฤษ

เคยไหมครับ? งงกับประโยคภาษาอังกฤษที่พูดถึงเหตุการณ์ในอดีตสองเหตุการณ์ เกิดขึ้นก่อนหลังกันอย่างไร? วันนี้เรามีตัวช่วยที่จะปลดล็อกความลับของ “รูปแบบอดีตสมบูรณ์แบบ (Past Perfect tense)” มาไขข้อสงสัย เรียนรู้วิธีใช้ ฝึกฝนทักษะ ผ่านบทความสุดละเอียด พร้อมตัวอย่างประโยคมากมาย เตรียมพร้อมสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจ!

Past Perfect tense
Past Perfect tense

I. Past Perfect Tense คืออะไร?

Past Perfect Tense ใช้เพื่อแสดงการกระทำที่เกิดขึ้นก่อนและเสร็จสมบูรณ์โดยสมบูรณ์ก่อนจุดเวลาเฉพาะในอดีต จุดเวลานี้อาจแสดงด้วยเวลาเฉพาะ (เช่น 8 โมงเช้า), การกระทำอื่น ๆ ในอดีต (เช่น หลังจากที่ทานอาหารเสร็จ), หรือ อธิบายด้วยประโยคแสดงเวลา (เช่น ก่อนที่จะมืด)

ตัวอย่าง:

  • I had finished my homework before you arrived. (ฉันทำการบ้านเสร็จก่อนที่เธอจะมาถึง)
  • She had been studying for hours when she fell asleep. (เธออ่านหนังสือมาหลายชั่วโมงแล้วตอนที่เธอหลับไป)
Past Perfect Tense คืออะไร
Past Perfect Tense คืออะไร

II. สูตรในการใช้งานอดีตสมบูรณ์แบบ

  • รูปบวก

S + had + V3/ed

ตัวอย่าง: You had prepared dinner before they arrived. (คุณเตรียมอาหารเย็นก่อนที่พวกเขาจะมาถึง)

  • รูปปฏิเสธ

S + had + not + V3/ed

ตัวอย่าง: He had not completed his assignment. (เขายังทำงานมอบหมายไม่เสร็จ)

  • คำถามแบบ Yes/No

Had + S + V3/ed?

ตอบ:

  • Yes, S + had
  • No, S + had + not

ตัวอย่าง: Had they finished the project? (พวกเขาทำโครงการเสร็จหรือยัง?)

            No, they had not.  (ไม่พวกเขาไม่ได้)

  • คำถามแบบ WH

When/Where/Why/What/How + had + S + V3 + O?

ตัวอย่าง:

  • Where had you traveled before moving here? (คุณเคยไปเที่ยวที่ไหนก่อนที่จะย้ายมาที่นี่?)
  • Why had she left the job before finding a new one? (ทำไมเธอจึงออกจากงานก่อนที่จะหางานใหม่?)

III. การใช้ Past Perfect Tense

เพื่อให้เข้าใจการใช้ Past Perfect Tense อย่างถูกต้อง คุณจำเป็นต้องใส่ใจในข้อกำหนดด้านไวยากรณ์ในสถานการณ์ต่อไปนี้:

  • แสดงการกระทำสองอย่างที่เกิดขึ้นพร้อมกันในอดีต โดยใช้ Past Perfect Tense สำหรับการกระทำที่เกิดขึ้นก่อน

ตัวอย่าง: She had already left when I arrived. (เธอจากไปแล้วเมื่อฉันมาถึง)

  • แสดงการกระทำที่เกิดขึ้นจนถึงจุดหนึ่งหรือการกระทำอื่นในอดีต

ตัวอย่าง: He had finished his homework before he went out. (เขาทำการบ้านเสร็จก่อนที่จะออกไปข้างนอก)

  • แสดงการกระทำที่เกิดขึ้นก่อนจุดเวลาหนึ่งๆ ในอดีต

ตัวอย่าง: By the time the police arrived, the thief had escaped. (เมื่อตำรวจมาถึง โจรก็หลบหนีไปแล้ว)

  • แสดงการกระทำที่เป็นเงื่อนไขหลักที่นำไปสู่การกระทำอื่น

ตัวอย่าง: If he hadn’t lied to me, I wouldn’t have been upset. (ถ้าเขาไม่โกหกฉัน ฉันคงไม่เสียใจ)

  • แสดงเงื่อนไขที่ไม่เป็นจริงในอดีต (Conditional type 3)

ตัวอย่าง: If she had studied harder, she might have passed the exam. (ถ้าเธอเรียนหนักขึ้นเธออาจจะสอบผ่าน)

  • แสดงความผิดหวังต่อเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งในอดีต (บ่อยครั้งที่พบในประโยค Wish)

ตัวอย่าง: I wish I had known about the meeting. (ฉันหวังว่าฉันจะรู้เกี่ยวกับการประชุม)

การใช้ Past Perfect Tense
การใช้ Past Perfect Tense

IV. การรู้จำท่านแบบ Past Perfect Tense

ท่านแบบ Past Perfect มักจะใช้คู่กับคำบุพบทและคำเชื่อมต่างๆ เช่น:

  • Until then, prior to that time, as soon as, by, …
  • Before, after, when, by the time + S + V; by the end of + time in the past …

ตัวอย่าง:

  • By the time I met you, I had been working at that company for five years. (ตอนที่ฉันพบคุณ, ฉันได้ทำงานที่บริษัทนั้นมาแล้วห้าปี)
  • When I arrived, they had finished the meal. (ตอนที่ฉันมาถึง, พวกเขาได้รับประทานอาหารเสร็จแล้ว)

V. การแยกความแตกต่างระหว่าง Past Perfect vs Past Perfect Continuous

  • Past Perfect Tense: ใช้แสดงการกระทำที่เกิดขึ้นและเสร็จสิ้นก่อนเหตุการณ์หรือการกระทำอื่นในอดีต.
  • Past Perfect Continuous: ใช้แสดงการกระทำที่กำลังเกิดขึ้นและต่อเนื่องจนถึงเหตุการณ์หรือการกระทำอื่นในอดีต.

ตัวอย่าง:

  • Past Perfect: I had been waiting for two hours when I decided to leave. (ผมรอมาแล้วสองชั่วโมงเมื่อผมตัดสินใจออกไป.)
  • Past Perfect Continuous: I had been studying for two hours when the alarm went off. (ผมได้ศึกษามาแล้วสองชั่วโมงเมื่อนาฬิกาปลุกดังขึ้น.)
Past Perfect vs Past Perfect Continuous
Past Perfect vs Past Perfect Continuous

VI. ตัวอย่างประโยค past perfect tense 20 ประโยค

ด้านล่างนี้คือตัวอย่างประโยค 20 ประโยคเกี่ยวกับ Past Perfect Tense ที่คุณสามารถอ้างอิงได้

  1. I had already eaten dinner when she called. (ฉันกินข้าวเย็นเสร็จแล้วตอนที่เธอโทรมา) – เน้นว่าการกินข้าวเย็นเสร็จสิ้นก่อนที่เธอจะโทรมา
  2. The movie had started by the time we got to the cinema. (หนังเริ่มฉายแล้วตอนที่เราไปถึงโรงหนัง) – เน้นว่าหนังเริ่มฉายก่อนที่เราจะไปถึง
  3. She had been studying for hours when she fell asleep. (เธออ่านหนังสือมาหลายชั่วโมงแล้วตอนที่เธอหลับไป) – เน้นว่าเธออ่านหนังสือมาหลายชั่วโมงก่อนที่เธอจะหลับไป
  4. I had never seen such a beautiful view before. (ฉันไม่เคยเห็นวิวที่สวยขนาดนี้มาก่อน) – เน้นว่าไม่เคยเห็นวิวที่สวยขนาดนี้มาก่อนหน้านี้
  5. By the time I realized my mistake, it was too late. (เมื่อฉันรู้ตัวว่าผิดพลาด ก็สายเกินไปแล้ว) – เน้นว่ารู้ตัวว่าผิดพลาดเมื่อสายเกินไปแล้ว
  6. We had already left for the airport when I remembered my passport. (เราออกเดินทางไปสนามบินแล้วตอนที่ฉันนึกขึ้นได้ว่าลืมพาสปอร์ต) – เน้นว่าออกเดินทางไปสนามบินแล้วตอนที่นึกขึ้นได้ว่าลืมพาสปอร์ต
  7. She had always wanted to visit Paris. (เธอใฝ่ฝันอยากไปเยือนปารีสเสมอมา) – เน้นว่าใฝ่ฝันอยากไปเยือนปารีสมาตลอด
  8. I had finished reading the book before you even started. (ฉันอ่านหนังสือจบแล้วก่อนที่คุณจะเริ่มอ่านเสียอีก) – เน้นว่าอ่านหนังสือจบแล้วก่อนที่คุณจะเริ่มอ่าน
  9. They had been arguing for hours when I finally intervened. (พวกเขาเถียงกันมาหลายชั่วโมงแล้วตอนที่ฉันเข้าไปแทรกแซง) – เน้นว่าพวกเขาเถียงกันมาหลายชั่วโมงแล้วก่อนที่ฉันจะเข้าไปแทรกแซง
  10. I had lost my phone, so I couldn’t call you. (ฉันทำมือถือหาย เลยโทรหาคุณไม่ได้) – เน้นว่าทำมือถือหายก่อน เลยโทรหาไม่ได้
  11. The train had already left when we arrived at the station. (รถไฟออกไปแล้วตอนที่เราไปถึงสถานี)
  12. I had just finished taking a shower when the doorbell rang. (ฉันเพิ่งอาบน้ำเสร็จตอนที่กริ่งดัง)
  13. She had been waiting for me for 15 minutes when I finally showed up. (เธอรอฉันอยู่ 15 นาทีแล้วตอนที่ฉันโผล่หน้า)
  14. We had driven for hours before we found a gas station. (เราขับรถมาหลายชั่วโมงแล้วก่อนที่จะเจอปั๊มน้ำมัน)
  15. I had already eaten lunch when you offered me some food. (ฉันทานข้าวกลางวันแล้วตอนที่คุณเสนออาหารให้)
  16. The meeting had started by the time I got to the office. (ประชุมเริ่มแล้วตอนที่ฉันไปถึงออฟฟิศ)
  17. She had been working on the project for months when she finally completed it. (เธอทำงานในโครงการนี้มาหลายเดือนแล้วตอนที่เธอทำเสร็จ)
  18. I had never been to New York City before I moved there. (ฉันไม่เคยไปนิวยอร์กซิตี้มาก่อนที่จะย้ายไปอยู่ที่นั่น)
  19. By the time I realized I was lost, it was already dark. (เมื่อฉันรู้ตัวว่าหลงทาง ฟ้าก็มืดสนิทแล้ว)
  20. We had already made plans for the weekend when you invited us to your party. (เราวางแผนไว้สำหรับสุดสัปดาห์แล้วตอนที่คุณชวนไปปาร์ตี้ของคุณ)

VII. แบบฝึกหัดการใช้ Past Perfect Tense

แบบฝึกหัดที่ 1: ใส่คำกริยาในวงเล็บลงในอดีตกาลที่สมบูรณ์แบบ

  1. By the time I (arrive) at the party, everyone (leave).
  2. She (not finish) her homework when I (see) her last night.
  3. They (already eat) dinner when I (get) home.
  4. I (study) for two hours before I (take) the exam.
  5. He (know) her for five years before they (get married).

แบบฝึกหัดที่ 2: เขียนประโยคที่สมบูรณ์โดยใช้ Past Perfect Tense โดยยึดตามคำที่แนะนำต่อไปนี้

  1. before / go / to bed / read / a book
  2. when / we / arrive / the store / it / already / close
  3. by the time / she / finish / her work / it / be / too late / go / out
  4. after / I / study / for an hour / I / feel / tired
  5. because / he / not eat / breakfast / he / be / hungry / lunch time

แบบฝึกหัดที่ 3: แก้ไขข้อผิดพลาดในประโยคต่อไปนี้

  1. I had already eaten dinner when my friend arrived.
  2. She had not finished her homework when I called her.
  3. Had the train left before you arrived at the station?
  4. By the time I got home, my sister had already cooked dinner.
  5. I had studied for two hours before I took the exam.

คำตอบ:

แบบฝึกหัดที่ 1: ใส่คำกริยาในวงเล็บลงในอดีตกาลที่สมบูรณ์แบบ

  1. By the time I had arrived at the party, everyone had left.
  2. She had not finished her homework when I saw her last night.
  3. They had already eaten dinner when I got home.
  4. I had studied for two hours before I took the exam.
  5. He had known her for five years before they got married.

แบบฝึกหัดที่ 2: เขียนประโยคที่สมบูรณ์โดยใช้ Past Perfect Tense โดยยึดตามคำที่แนะนำต่อไปนี้

  1. Before I went to bed, I had read a book.
  2. When we arrived at the store, it had already closed.
  3. By the time she finished her work, it was too late to go out.
  4. After I had studied for an hour, I felt tired.
  5. Because he had not eaten breakfast, he was hungry by lunchtime.

แบบฝึกหัดที่ 3: แก้ไขข้อผิดพลาดในประโยคต่อไปนี้

  1. Correct: I had already eaten dinner when my friend arrived.
  2. Correct: She had not finished her homework when I called her.
  3. Correct: Had the train left before you arrived at the station?
  4. Correct: By the time I got home, my sister had already cooked dinner.
  5. Correct: I had studied for two hours before I took the exam.

Past Perfect Tense เป็นรูปแบบเวลาที่สำคัญในภาษาอังกฤษ ช่วยให้คุณสามารถแสดงการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีตได้อย่างชัดเจนและแม่นยำ หวังว่าบทความนี้จะให้ความรู้ที่ครบถ้วนเกี่ยวกับท่านนี้ จงฝึกฝนต่อไปเพื่อใช้ Past Perfect Tense ได้อย่างคล่องแคล่วนะครับ!

5/5 - (2 votes)
Ellie
Ellie
ฉันชื่อเอลลี - นักรบ IELTS 6.5! ด้วยความรู้ว่าการเดินทางเพื่อพิชิต IELTS นั้นยากมาก ฉันจึงอยากแบ่งปันความรู้ เอกสาร และประสบการณ์อันมีค่าทั้งหมดของฉันกับทุกคนที่รักความฝันที่จะพิชิต IELTS มา "บดขยี้" IELTS ไปด้วยกัน!

รายการบทความ

บางทีคุณอาจสนใจ

Past Perfect Continuous

เรียนรู้รายละเอียด Past Perfect Continuous Tense ในภาษาอังกฤษ

0
คุณกำลังพบปัญหาในการใช้ Past Perfect Continuous ในภาษาอังกฤษหรือไม่? บทความนี้จะให้ข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดเกี่ยวกับรูปแบบนี้ ตั้งแต่คำนิยาม โครงสร้าง วิธีการใช้ สัญญาณในการตรวจสอบ ไปจนถึงตัวอย่างและแบบฝึกหัดที่ใช้งานได้ มาค้นพบกันเลยเพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของคุณ! I. Past Perfect Continuous คืออะไร? Past Perfect Continuous เป็นรูปเวลาหนึ่งในภาษาอังกฤษที่ใช้แสดงถึงการกระทำที่เริ่มต้นในอดีต ดำเนินต่อเนื่องไปสักระยะหนึ่งและสิ้นสุดลงในช่วงเวลาหนึ่งในอดีต ตัวอย่างการใช้ Past Perfect Continuous: I...
Modal verbs

Modal verbs คืออะไร? วิธีการใช้กริยาช่วยและแบบฝึกหัดพร้อมคำตอบ

0
คุณกำลังประสบปัญหาในการเรียนรู้ Modal verbs - กริยาช่วยในภาษาอังกฤษหรือไม่? บทความนี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยคุณเอาชนะหัวข้อไวยากรณ์สำคัญนี้อย่างมีประสิทธิภาพ มาร่วมค้นพบความรู้และแบบฝึกหัดที่มีประโยชน์เกี่ยวกับ Modal verbs กันเลย! I. Modal Verbs มีอะไรบ้าง? กริยาช่วย (Modal Verbs) หรือที่เรียกว่า กริยาช่วยหรือกริยาแสดงความรู้สึก มีหน้าที่แสดงความจำเป็นและหมายความในประโยค รวมถึงความสามารถ การอนุญาต ความจำเป็น การคาดการณ์ และอื่นๆ ประกอบด้วย...
ประโยคปฏิเสธ ภาษาอังกฤษ

10+ โครงสร้างประโยคปฏิเสธภาษาอังกฤษที่ใช้กันทั่วไป

0
คุณกำลังประสบปัญหาในการใช้ประโยคปฏิเสธ ภาษาอังกฤษหรือไม่? บทความนี้จะเป็นคู่มือที่มีประโยชน์สำหรับคุณ โดยให้ข้อมูลครบถ้วนเกี่ยวกับโครงสร้างประโยคปฏิเสธที่พบบ่อยที่สุดพร้อมแบบฝึกหัดใช้งานเพื่อช่วยให้คุณฝึกฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาค้นพบกันเลย! I. ประโยคปฏิเสธ ภาษาอังกฤษคืออะไร? ประโยคปฏิเสธ ภาษาอังกฤษใช้เพื่อแสดงความหมายที่ตรงกันข้ามกับประโยคยืนยัน แสดงถึงการไม่มี ไม่เกิดขึ้น หรือไม่เป็นความจริงของเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง โครงสร้างประโยคปฏิเสธสร้างขึ้นโดยการใช้คำปฏิเสธ เช่น "not", "no", "never", "none", ร่วมกับองค์ประกอบอื่นๆ ในประโยค ตัวอย่างใหม่: My brother does not play...
If Clause Type 0

ประโยค If Clause Type 0 (Zero conditional): สูตร, การใช้งาน, แบบฝึกหัด

0
คุณกำลังศึกษาเกี่ยวกับ If Clause Type 0 - หนึ่งในโครงสร้างประโยคเงื่อนไขที่สำคัญในภาษาอังกฤษ? บทความนี้จะให้ความรู้เต็มรูปแบบเกี่ยวกับโครงสร้าง, การใช้งาน และแบบฝึกหัดเกี่ยวกับ If Clause Type 0 เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างชำนาญในการสื่อสารและการเขียน มาติดตามกันเลย! I. ประโยค If Clause Type 0 คืออะไร? If Clause Type...
Preposition of Place

คำบุพบทที่บ่งบอกที่ตั้ง (Preposition Of Place): คำนิยามและวิธีการใช้งาน

0
Preposition of Place เป็นหัวข้อไวยากรณ์ที่สำคัญในภาษาอังกฤษ ช่วยให้ผู้เรียนสามารถบรรยายตำแหน่งหรือที่ตั้งของวัตถุและเหตุการณ์ได้อย่างแม่นยำ การเข้าใจการใช้งานเหล่านี้เป็นพื้นฐานที่จะช่วยให้คุณสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วและธรรมชาติยิ่งขึ้น บทความนี้จะให้ความรู้เกี่ยวกับ Preposition of Place อย่างละเอียด ไปดูกันเลย! I. Preposition of Place คืออะไร? Preposition of Place เป็นคำหรือวลีที่ใช้เพื่อเชื่อมโยงคำนามหรือสรรพนามกับตำแหน่งที่ตั้งที่เฉพาะเจาะจงในพื้นที่ ช่วยให้ผู้ฟังหรือผู้อ่านเข้าใจตำแหน่งของวัตถุหรือเหตุการณ์ที่กล่าวถึงในประโยคได้ดียิ่งขึ้น ตัวอย่าง: The book is on...

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

โพสต์ใหม่

10+ โครงสร้างประโยคปฏิเสธภาษาอังกฤษที่ใช้กันทั่วไป

Grammar
Read more