The IELTS Club x Prepedu

วิธีใช้ประโยค If Clause ประเภท 0, 1, 2, 3 ในภาษาอังกฤษอย่างง่ายดาย

คุณกำลังศึกษาเกี่ยวกับวิธีใช้ “If clause” ในภาษาอังกฤษหรือไม่? บทความนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้าง, วิธีการใช้งาน และตัวอย่างเพื่อแต่ละประเภทของ If clause ที่แตกต่างกัน มาค้นพบกันเลย!

I. If Clause คืออะไร?

“If clause” หรือที่เรียกว่า “ประโยคเงื่อนไข” เป็นประเภทของประโยคซับซ้อนในภาษาอังกฤษที่ใช้เพื่อแสดงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นตามสมมติฐานบางอย่าง โครงสร้างพื้นฐานของประโยคเงื่อนไขประกอบด้วยสองส่วน:

  • มาตราเงื่อนไข (If clause): นี่เป็นส่วนที่ให้สมมติฐาน, โดยปกติจะเริ่มต้นด้วยคำว่า “if”.
  • มาตราผลลัพธ์ (Main clause): นี่คือส่วนที่แสดงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นหากสมมติฐานในมาตราเงื่อนไขได้รับการตอบสนอง.

II. โครงสร้างของ If Clause ในภาษาอังกฤษ

ในภาษาอังกฤษ, “If clause” มีการแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลักโดยขึ้นอยู่กับความเป็นไปได้ของสมมติฐานและผลลัพธ์:

1. If Clause Type 0

If Clause Type 0 (Zero conditional) ใช้แสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเสมอเมื่อมีเงื่อนไขบางอย่างเกิดขึ้น ผลที่ตามมาเกิดขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัยและถูกบรรยายในมาตราผลลัพธ์ โดยกริยาในมาตรานี้จะถูกผันในรูปแบบปัจจุบันง่าย ข้อสมมติจะถูกแสดงในมาตราเงื่อนไขและกริยาในมาตรานี้ก็จะถูกผันตามรูปแบบปัจจุบันง่ายเช่นกัน

โครงสร้าง: If + S + V (รูปปัจจุบันง่าย), S + V (รูปปัจจุบันง่าย)

ตัวอย่าง:

  • If you mix red and blue, you get purple. (ถ้าคุณผสมสีแดงและสีน้ำเงิน คุณจะได้สีม่วง)
  • If ice reaches 0 degrees Celsius, it melts. (ถ้าน้ำแข็งถึง 0 องศาเซลเซียส มันจะละลาย)

เนื่องจากเหตุการณ์ในมาตราผลลัพธ์จะเกิดขึ้นเสมอเมื่อมีเงื่อนไขในประโยคเงื่อนไขประเภท 0 นักเรียนสามารถใช้ “When” แทน “If” ในประโยคเงื่อนไขประเภท 0 โดยยังคงรักษาวัตถุประสงค์ในการสื่อสารเดิมไว้

ตัวอย่าง: When you mix yellow and blue, you get green. (เมื่อคุณผสมสีเหลืองและสีน้ำเงิน คุณจะได้สีเขียว)

การใช้งาน:

  • แสดงความจริงที่ชัดเจนหรือมีความเป็นวิทยาศาสตร์ กฎทั่วไป
  • ใช้เมื่อต้องการความช่วยเหลือหรือร้องขอ
  • ใช้แสดงนิสัยหรือการกระทำที่เกิดขึ้นเป็นประจำ
  • ใช้เพื่อแสดงคำสั่ง, คำแนะนำหรือคำเตือน
If Clause Type 0
If Clause Type 0

2. If Clause Type 1

If Clause Type 1 ใช้แสดงเหตุการณ์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นสูงจากเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ในประโยคเงื่อนไขประเภทนี้ มาตราเงื่อนไขใช้รูปแบบปัจจุบันง่าย ในขณะที่มาตราผลลัพธ์ใช้รูปแบบอนาคตง่าย หรือใช้กริยาช่วยแสดงความเป็นไปได้ (can/may/might)

โครงสร้าง:

  • If + S + V (รูปปัจจุบันง่าย), S + will + V (รูปอนาคตง่าย)
  • หรือ: If + S + V (รูปปัจจุบันง่าย), S + can/may/might + V (รูปอนาคตง่าย)

ตัวอย่าง:

If the weather clears up, we can go hiking. (ถ้าอากาศดีขึ้น เราสามารถไปเดินป่าได้)

ดังนั้น ประโยคเงื่อนไขประเภท 1 ต่างจากประโยคเงื่อนไขประเภท 0 ที่แสดงถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเสมอเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง ประโยคเงื่อนไขประเภท 1 แสดงถึงผลลัพธ์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นสูง เช่น “สัตว์บางชนิดอาจสูญพันธุ์” หรือ “เราอาจไปเดินป่าได้” ซึ่งไม่ได้รับประกันว่าจะเกิดขึ้นเสมอไปเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง

การใช้งานประโยคเงื่อนไขประเภท 1:

  • แสดงถึงเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตหากเงื่อนไขที่กล่าวถึงเป็นความจริง
  • แสดงถึงการกระทำที่มีโอกาสเกิดขึ้นหากเงื่อนไขบางอย่างเป็นจริงในปัจจุบันการใช้ “may” แทน “will” เพื่อแสดงระดับความไม่แน่นอนที่สูงขึ้นเกี่ยวกับผลลัพธ์

3. ประโยคเงื่อนไขประเภท 2 (If Clause Type 2)

If Clause Type 2 ใช้แสดงถึงสมมติฐานที่มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยในปัจจุบัน นำไปสู่ผลลัพธ์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยเช่นกัน ในประโยคเงื่อนไขประเภทนี้ มาตราเงื่อนไขใช้รูปแบบอดีตง่าย มาตราผลลัพธ์ใช้กริยาช่วยในรูปแบบอดีต (could/would)

โครงสร้าง: If + S + V (รูปอดีตง่าย), S + would/could + V (รูปอนาคตง่าย)

ตัวอย่าง:

  • If I had enough money, I would travel the world. (ถ้าฉันมีเงินเพียงพอ ฉันจะเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลก)
  • If the weather were nice, we could have a barbecue. (ถ้าอากาศดี เราจะสามารถจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวได้)

If Clause Type 2 ยังใช้เพื่อให้คำแนะนำ “If I were you, I would think twice before making a decision.” (ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะคิดให้ดีก่อนตัดสินใจ)

หมายเหตุ: กริยา to-be ในมาตราเงื่อนไขของประโยคเงื่อนไขประเภท 2 ใช้เป็น “were” เสมอ

การใช้งาน:

  • ให้คำแนะนำ
  • ถามคำถามเชิงสมมติ
  • พูดถึงสิ่งที่ไม่เป็นจริง
  • ให้คำขออย่างสุภาพ
  • ปฏิเสธข้อเสนอ
If Clause Type 2
If Clause Type 2

4. If Clause Type 3

ประโยคเงื่อนไขประเภท 3 ใช้แสดงสมมติฐานที่ไม่มีโอกาสเกิดขึ้นและผลลัพธ์ที่เกิดจากสมมติฐานนั้น โดยทั่วไป ประโยคเงื่อนไขประเภท 3 ใช้สำหรับสมมติฐานเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ไม่เป็นจริงในอดีต

ในประโยค If Clause Type 3, มาตราเงื่อนไขใช้รูปแบบอดีตสมบูรณ์, มาตราผลลัพธ์ใช้กริยาช่วยในรูปแบบอดีต (could would) ควบคู่กับกริยาช่วย “have” และกริยาหลักในรูปแบบอดีตกาลที่สมบูรณ์ (V3/V-ed)

โครงสร้าง: If + มาตราเงื่อนไข (อดีตสมบูรณ์), S + would/could + have + V3/V-ed

ตัวอย่าง:

If the weather had been better, we could have gone hiking. (ถ้าอากาศดีขึ้น เราจะได้ไปเดินป่า) If he had taken the earlier flight, he would not have missed the meeting. (ถ้าเขาได้ขึ้นเครื่องบินเที่ยวแรก เขาคงไม่พลาดการประชุม)

การใช้งาน:

  • แสดงการกระทำที่ไม่ได้เกิดขึ้นในอดีตและสมมติว่าผลลัพธ์จะต่างออกไปหากการกระทำนั้นเกิดขึ้น
  • ใช้ “could” เมื่อแสดงผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นหากเงื่อนไขถูกต้อง
  • ใช้ “might” เพื่อแสดงผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นแต่ไม่แน่นอน

5. ประโยคเงื่อนไขประเภทผสม (Mixed conditionals)

ประโยคเงื่อนไขประเภทผสมผสานระหว่างประเภท 2 และประเภท 3 โครงสร้าง if นี้มีสองประเภทหลัก:

1. ประโยคเงื่อนไขผสมประเภท 1

ใช้แสดงสมมติฐานที่ตรงกันข้ามกับอดีต แต่ผลลัพธ์ตรงกันข้ามกับปัจจุบัน

โครงสร้าง:

If + S + Had +Vpp (ประโยคเงื่อนไขประเภท 3), S + Would + V (ประโยคเงื่อนไขประเภท 2) ตัวอย่าง:

  • If I had saved more money in the past, I would be able to afford a new car now. (ถ้าฉันได้เก็บเงินไว้มากขึ้นในอดีต ตอนนี้ฉันจะสามารถซื้อรถใหม่ได้)
  • If I had learned Spanish when I was younger, I would be fluent by now. (ถ้าฉันเรียนภาษาสเปนตั้งแต่ตอนเด็ก ตอนนี้ฉันจะพูดได้คล่องแล้ว)

2. ประโยคเงื่อนไขผสมประเภท 2

ใช้แสดงสมมติฐานที่ตรงกันข้ามกับปัจจุบันและผลลัพธ์ตรงกันข้ามกับอดีต

โครงสร้าง:

If + S + Ved (ประโยคเงื่อนไขประเภท 2), S + Would + Have + Vpp (ประโยคเงื่อนไขประเภท 3)

ตัวอย่าง:

  • If I were at home now, I would have been able to answer the phone. (ถ้าฉันอยู่ที่บ้านตอนนี้ ฉันจะได้รับโทรศัพท์)
  • If you were more careful, you wouldn’t have made this mistake. (ถ้าคุณระมัดระวังมากขึ้น คุณจะไม่ทำผิดพลาดนี้)
ประโยคเงื่อนไขประเภทผสม
ประโยคเงื่อนไขประเภทผสม

III. เคล็ดลับในการจำสูตรสำหรับ 3 ประโยคเงื่อนไข

เพื่อจำสูตรสำหรับ 3 ประโยคเงื่อนไขได้อย่างรวดเร็ว มาทบทวนเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ กัน: การถอยหลังของเวลา

จากการสังเกตโครงสร้างของประโยคเงื่อนไขต่างๆ เราเห็นการถอยหลังของเวลา:

  • ประโยคเงื่อนไขประเภท 1: If + S + V (รูปปัจจุบันง่าย), S + V (รูปอนาคตง่าย)
  • ประโยคเงื่อนไขประเภท 2: If + S + V (รูปอดีตง่าย), S + would/could + V(inf)
  • ประโยคเงื่อนไขประเภท 3: If + ข้อกำหนดเงื่อนไข (รูปอดีตสมบูรณ์), S + would/could + have + V3/V-ed

การถอยหลังของเวลาสามารถเห็นได้จาก:

  • ข้อกำหนด If – กริยาในรูปแบบปัจจุบันง่าย => อดีตง่าย => อดีตสมบูรณ์
  • มาตราผลลัพธ์: will => would => would have

IV. การสลับคำในประโยคเงื่อนไข (If Clause)

1. การสลับคำในประโยคเงื่อนไขประเภท 1

เมื่อสลับคำในประโยคเงื่อนไขประเภท 1 ประโยคจะดูสุภาพและอ่อนโยนขึ้น และมักจะเหมาะสมเมื่อใช้เพื่อขอความช่วยเหลือ:

โครงสร้างต้นฉบับของประโยคเงื่อนไขประเภท 1:

If + S1 + V (รูปปัจจุบันง่าย), S2 + V (รูปอนาคตง่าย)

หรือ: If + S1 + V (รูปปัจจุบันง่าย), S2 + can/may/might + V(inf)

โครงสร้างการสลับคำของประโยคเงื่อนไขประเภท 1:

Should + S1 + (not) + V (รูปปัจจุบันง่าย), S2 + can/may/might + V(inf)

ตัวอย่างของการสลับคำในประโยคเงื่อนไขประเภท 1:

  • ประโยคต้นฉบับ: If you see him at the park, please ask him to call me.
  • การสลับคำ: Should you see him at the park, please ask him to call me.

2. การสลับคำในประโยคเงื่อนไขประเภท 2

เมื่อสลับคำในประโยคเงื่อนไขประเภท 2 ประโยคจะดูอ่อนหวานและเหมาะสมในสถานการณ์ที่ให้คำแนะนำอย่างจริงใจ ลดความรุนแรงของคำพูด:

โครงสร้างต้นฉบับของประโยคเงื่อนไขประเภท 2:

If + S1 + V (รูปอดีตง่าย), S2 + would/could + V(inf)

โครงสร้างการสลับคำของประโยคเงื่อนไขประเภท 2:

Were + S1 + (not) + O, S2 + would/could + V(inf)

ตัวอย่างการสลับคำในประโยคเงื่อนไขประเภท 2:

  • ประโยคต้นฉบับ: If he were more considerate, he would help with the chores.
  • การสลับคำ: Were he more considerate, he would help with the chores.

3. การสลับคำในประโยคเงื่อนไขประเภท 3

ในบริบทที่เป็นทางการ ผู้พูด/เขียนอาจใช้การสลับคำสำหรับประโยคเงื่อนไขประเภท 3 ในกรณีนี้ “had” จะถูกวางไว้ที่หัวประโยคและทดแทน “if”

โครงสร้างการสลับคำของประโยคเงื่อนไขประเภท 3:

Had + S + V3/V-ed, มาตราผลลัพธ์ (ประโยคเงื่อนไขประเภท 3)

ตัวอย่าง: Had we known the truth, we would have acted differently. (ถ้าเราได้รู้ความจริง, เราจะได้ปฏิบัติต่างไปจากนี้.)

V. โครงสร้างประโยค If Clause อื่นๆ

1. โครงสร้าง “การปฏิเสธ”: Unless – Unless = If …. Not.

Unless สามารถใช้แทน If…not ได้ในทุกประเภทของประโยคเงื่อนไข 1, 2 หรือ 3.

หมายเหตุ: หลังจาก Unless จะต้องมีข้อกำหนดที่เป็นบวกเสมอ

2. โครงสร้าง “ความปรารถนา”: Wish/ If only

มาตราหลังจาก “S + wish” หรือ “If only” จะถูกแบ่งตามกริยาของมาตรา “if” ในประโยคเงื่อนไข โดยมีราย

ละเอียดดังนี้:

S + wish + S + V รูปปัจจุบันง่าย

  • แสดงความปรารถนาในปัจจุบัน/อนาคต If only + S + V รูปอดีตง่าย
  • แสดงความปรารถนาที่ตรงกันข้ามกับปัจจุบัน S + V รูปอดีตสมบูรณ์
  • แสดงความปรารถนาที่ตรงกันข้ามกับอดีต

3. โครงสร้าง “เท่านั้น”: As long as/ so long as/ providing/ provided

โครงสร้างสำหรับ As long as/ so long as/ providing / provided ดังนี้:

As long as/ so long as/ providing / provided + S1 + V1, S2 + V2

(โดยที่ S1 + V1 จะถูกแบ่งตามมาตราของประโยคเงื่อนไข “If”. ขณะที่ S2 + V2 เป็นมาตราหลัก).

VI. แบบฝึกหัดเกี่ยวกับ If Clause

แบบฝึกหัดที่ 1: เลือกรูปแบบกริยาที่เหมาะสมในวงเล็บเพื่อเติมประโยคให้สมบูรณ์

  1. If you (study) harder, you (get) better grades.
  2. If it (rain) tomorrow, we (stay) at home.
  3. If I (have) more money, I (travel) around the world.
  4. If I (know) you were coming, I (prepare) dinner.
  5. If he (listen) to my advice, he (not be) in this situation now.

แบบฝึกหัดที่ 2: เขียนประโยคต่อไปนี้ใหม่เป็นประโยคเงื่อนไข

  1. I didn’t go to the party because it rained.
  2. If I had known the truth, I wouldn’t have told him.
  3. We will go to the beach if the weather is nice.
  4. If I were you, I would study harder for the exam.
  5. He would be happier if he had a new car.

แบบฝึกหัดที่ 3: จัดเรียงคำต่อไปนี้ให้เป็นประโยคที่สมบูรณ์

  1. if / I / had / more / money / I / would / travel / the / world / around
  2. if / it / rains / tomorrow / we / will / stay / at / home
  3. if / I / had / known / you / were / coming / I / would / have / prepared / dinner
  4. if / he / had / listened / to / my / advice / he / would / not / be / in / this / situation / now
  5. if / I / were / you / I / would / study / harder / for / the / exam

คำตอบ:

บทที่ 1:

  1. study – get
  2. rains – stay
  3. have – travel
  4. know – prepare
  5. listen – not be

บทที่ 2:

  1. If it hadn’t rained, I would have gone to the party.
  2. If I had known the truth, I wouldn’t have told him.
  3. We will go to the beach if the weather is nice.
  4. If I were you, I would study harder for the exam.
  5. He would be happier if he had a new car.

บทที่ 3:

  1. If I had more money, I would travel around the world.
  2. If it rains tomorrow, we will stay at home.
  3. If I had known you were coming, I would have prepared dinner.
  4. If he had listened to my advice, he would not be in this situation now.
  5. If I were you, I would study harder for the exam.

ข้างต้นคือความรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับประโยคเงื่อนไข (If Clause) ในภาษาอังกฤษ หวังว่าความรู้นี้จะช่วยให้คุณได้คะแนนสูงในการสอบภาษาอังกฤษที่กำลังจะมาถึง!

Rate this post
The IELTS Club x Prepedu

รายการบทความ

บางทีคุณอาจสนใจ

If Clause Type 0

ประโยค If Clause Type 0 (Zero conditional): สูตร, การใช้งาน, แบบฝึกหัด

0
คุณกำลังศึกษาเกี่ยวกับ If Clause Type 0 - หนึ่งในโครงสร้างประโยคเงื่อนไขที่สำคัญในภาษาอังกฤษ? บทความนี้จะให้ความรู้เต็มรูปแบบเกี่ยวกับโครงสร้าง, การใช้งาน และแบบฝึกหัดเกี่ยวกับ If Clause Type 0 เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างชำนาญในการสื่อสารและการเขียน มาติดตามกันเลย! I. ประโยค If Clause Type 0 คืออะไร? If Clause Type...
If Clause Type 3

ความรู้เกี่ยวกับประโยคเงื่อนไขประเภท 3 (If Clause Type 3) และแบบฝึกหัด

0
คุณกำลังพบปัญหาในการเรียน If Clause Type 3 หรือไม่? บทความนี้จะมอบความรู้เต็มรูปแบบเกี่ยวกับโครงสร้าง, การใช้งาน, การแปรผัน และแบบฝึกหัดที่มีคำตอบเกี่ยวกับ If Clause Type 3 ให้กับคุณ ติดตามกันเลยเพื่อเสริมสร้างความรู้ด้านไวยากรณ์ภาษาอังกฤษของคุณ! I. If Clause Type 3 คืออะไร? ประโยคเงื่อนไขประเภท 3 เป็นประเภทของประโยคที่ใช้เมื่อผู้พูดจินตนาการถึงผลลัพธ์ของเหตุการณ์/สถานการณ์/การกระทำที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงในอดีต ตัวอย่าง: If...
Modal verbs

Modal verbs คืออะไร? วิธีการใช้กริยาช่วยและแบบฝึกหัดพร้อมคำตอบ

0
คุณกำลังประสบปัญหาในการเรียนรู้ Modal verbs - กริยาช่วยในภาษาอังกฤษหรือไม่? บทความนี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยคุณเอาชนะหัวข้อไวยากรณ์สำคัญนี้อย่างมีประสิทธิภาพ มาร่วมค้นพบความรู้และแบบฝึกหัดที่มีประโยชน์เกี่ยวกับ Modal verbs กันเลย! I. Modal Verbs มีอะไรบ้าง? กริยาช่วย (Modal Verbs) หรือที่เรียกว่า กริยาช่วยหรือกริยาแสดงความรู้สึก มีหน้าที่แสดงความจำเป็นและหมายความในประโยค รวมถึงความสามารถ การอนุญาต ความจำเป็น การคาดการณ์ และอื่นๆ ประกอบด้วย...
If Clause Type 1

If Clause Type 1 คืออะไร? ความรู้ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับ First Conditional

0
คุณต้องการที่จะเชี่ยวชาญไวยากรณ์ภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่? มาค้นพบ "If Clause Type 1" - ประโยคเงื่อนไขประเภท 1, หัวข้อสำคัญในการสื่อสารภาษาอังกฤษ บทความนี้จะให้ความรู้ที่ครบถ้วนเกี่ยวกับโครงสร้าง, การใช้งาน, คำแนะนำต่างๆ และรูปแบบการเปลี่ยนแปลงของ If Clause Type 1, ช่วยให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างชำนาญในทุกสถานการณ์ อย่าพลาดบทความที่มีประโยชน์นี้นะ! I. If Clause Type 1...
If Clause Type 2

If Clause Type 2 – โครงสร้าง, การใช้งาน, แบบฝึกหัดพร้อมคำตอบ

0
คุณกำลังพบปัญหาในการใช้ "If Clause Type 2" (ประโยคเงื่อนไขประเภท 2) ในภาษาอังกฤษหรือไม่? บทความนี้จะให้ความรู้เกี่ยวกับโครงสร้าง, การใช้งาน, การแปรผัน และแบบฝึกหัดที่เกี่ยวข้องกับประเภทประโยคเงื่อนไขนี้แก่คุณ มาค้นพบกันเลยเพื่อเพิ่มพูนทักษะภาษาอังกฤษของคุณ! I. If Clause Type 2 คืออะไร? "If Clause Type 2" หรือที่รู้จักกันว่า "ประโยคเงื่อนไขประเภท 2"...

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

โพสต์ใหม่

สูตรและวิธีใช้โครงสร้าง so that และ such that

Grammar
Read more

โครงสร้าง in spite of, Despite, Although, Though, Even though

Grammar

โครงสร้าง no longer, no more, any more ในภาษาอังกฤษ

Grammar