ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ “have to กับ must” ในภาษาอังกฤษ โดยจะเจาะลึกถึงโครงสร้างต่างๆ ของทั้งสองคำนี้ในประโยคบอกเล่า, ปฏิเสธ, และคำถาม พร้อมทั้งการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง “have to” และ “must” เพื่อให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้องในสถานการณ์ต่างๆ.
I. โครงสร้าง Must
1. Must คืออะไร
คำว่า “must” เป็นคำกริยาช่วย (modal verb) ในภาษาอังกฤษที่ใช้เพื่อแสดงการบังคับ, ความจำเป็น หรือความต้องการที่ต้องทำในสถานการณ์ใดๆ ซึ่งมักใช้ในการแนะนำว่ามีสิ่งที่จำเป็นหรือข้อบังคับที่ต้องปฏิบัติตาม
ตัวอย่างการใช้:
- You must wear a helmet when riding a bike.
(คุณ ต้อง สวมหมวกกันน็อกเมื่อขี่จักรยาน)
คำว่า must มักจะใช้เมื่อเราพูดถึงสิ่งที่มีความจำเป็นต้องทำในขณะนั้นหรือในอนาคต
2. โครงสร้าง Must ในภาษาอังกฤษ
คำว่า “must” เป็นคำกริยาช่วย (modal verb) ที่ใช้ในการแสดงความจำเป็นหรือข้อบังคับในประโยคภาษาอังกฤษ โดยสามารถใช้ได้ใน 3 โครงสร้างหลัก ได้แก่ แบบบอกเล่า (affirmative), แบบปฏิเสธ (negative), และแบบคำถาม (interrogative). ต่อไปนี้คือการอธิบายและตัวอย่างในแต่ละโครงสร้าง:
- แบบบอกเล่า (Affirmative)
Must ในประโยคแบบบอกเล่าใช้เพื่อแสดงถึงความจำเป็นหรือข้อบังคับที่ผู้พูดต้องการเน้น โดยการใช้ “must” จะตามด้วยกริยาภาคแสดง (bare infinitive) เพื่อบอกถึงสิ่งที่ต้องทำหรือสิ่งที่สำคัญที่จะต้องกระทำ
โครงสร้าง:
Subject + must + base verb
ตัวอย่าง:
- You must arrive by 8:00 AM.
(คุณ ต้อง มาถึงภายใน 8 โมงเช้า) - I must call my parents when I get home.
(ฉัน ต้อง โทรหาพ่อแม่เมื่อกลับถึงบ้าน) - He must finish his homework before going out.
(เขา ต้อง ทำการบ้านให้เสร็จก่อนออกไปข้างนอก)
- โครงสร้าง Must แบบปฏิเสธ (Negative)
เมื่อใช้ “must” ในรูปปฏิเสธ มักจะใช้ “must not” หรือ “mustn’t” เพื่อแสดงการห้ามหรือสิ่งที่ไม่ควรทำ ซึ่งจะบอกถึงข้อห้ามหรือการกระทำที่ไม่จำเป็นต้องทำ
โครงสร้าง:
Subject + must not (mustn’t) + base verb
ตัวอย่าง:
- You mustn’t speak loudly in the library.
(คุณ ห้าม พูดเสียงดังในห้องสมุด) - She must not be late for her appointment.
(เธอ ห้าม มาสายสำหรับการนัดหมาย) - They mustn’t forget to bring their ID cards.
(พวกเขา ห้าม ลืมเอาบัตรประชาชนมาด้วย)
- แบบคำถาม (Interrogative)
การใช้ “must” ในประโยคคำถามมักใช้เพื่อสอบถามเกี่ยวกับความจำเป็นหรือข้อบังคับในบางสถานการณ์ การใช้ “must” ในคำถามสามารถใช้เพื่อถามว่ามีสิ่งที่จำเป็นต้องทำหรือไม่
โครงสร้าง:
Must + subject + base verb?
ตัวอย่าง:
- Must I complete this report by tomorrow?
(ฉัน ต้อง ทำรายงานนี้ให้เสร็จภายในพรุ่งนี้ไหม?) - Must we leave so soon?
(เราควร ต้อง ออกไปเร็วขนาดนี้ไหม?) - Must he take the test today?
(เขา ต้อง สอบวันนี้ไหม?)
II. โครงสร้าง Have to
1. Have to คืออะไร
คำว่า “have to” เป็นคำกริยาช่วย (modal expression) ที่ใช้เพื่อแสดงถึงความจำเป็นหรือข้อบังคับที่มาจากภายนอก เช่น จากกฎระเบียบหรือสถานการณ์ที่ต้องทำ ซึ่งคล้ายกับการใช้ must แต่มีความแตกต่างในการใช้งาน
ตัวอย่างการใช้:
- I have to finish this report by tomorrow.
(ฉัน ต้อง เสร็จงานรายงานนี้ภายในวันพรุ่งนี้)
Have to มักจะใช้ในกรณีที่การกระทำถูกกำหนดจากสถานการณ์ภายนอก ไม่ใช่จากตัวผู้พูดเอง
2. โครงสร้าง Have to
คำว่า “have to” เป็นคำกริยาช่วย (modal expression) ที่ใช้แสดงความจำเป็นหรือข้อบังคับที่มาจากภายนอก เช่น กฎระเบียบ, ข้อกำหนด, หรือสถานการณ์ที่ต้องทำ มาดูกันว่า “have to” ใช้อย่างไรในแต่ละโครงสร้าง
- แบบบอกเล่า (Affirmative)
Have to ในประโยคแบบบอกเล่าใช้เพื่อแสดงถึงความจำเป็นที่เกิดขึ้นจากภายนอก เช่น กฎระเบียบหรือข้อบังคับที่ต้องทำ
โครงสร้าง:
Subject + have to + base verb
ตัวอย่าง:
- I have to go to the dentist tomorrow.
(ฉัน ต้อง ไปหาหมอฟันพรุ่งนี้) - She has to leave early for the meeting.
(เธอ ต้อง ออกไปเร็วเพราะการประชุม) - They have to finish their project by Friday.
(พวกเขา ต้อง ทำโปรเจ็กต์ให้เสร็จก่อนวันศุกร์)
- โครงสร้าง Have to แบบปฏิเสธ (Negative)
ในกรณีที่ “have to” ใช้ในรูปปฏิเสธ เราจะใช้ “don’t have to” หรือ “doesn’t have to” เพื่อแสดงว่าไม่จำเป็นต้องทำบางสิ่ง
โครงสร้าง:
Subject + don’t have to / doesn’t have to + base verb
ตัวอย่าง:
- You don’t have to bring anything to the party.
(คุณ ไม่ต้อง เอาบางสิ่งมาที่งานปาร์ตี้) - She doesn’t have to work tomorrow.
(เธอ ไม่ต้อง ทำงานพรุ่งนี้) - They don’t have to pay for the ticket.
(พวกเขา ไม่ต้อง จ่ายเงินสำหรับตั๋ว)
- แบบคำถาม (Interrogative)
การใช้ “have to” ในประโยคคำถามจะถามเกี่ยวกับความจำเป็นหรือข้อบังคับ โดยมักจะถามว่าเราต้องทำบางสิ่งหรือไม่
โครงสร้าง:
Do/Does + subject + have to + base verb?
ตัวอย่าง:
- Do I have to submit this form today?
(ฉัน ต้อง ส่งแบบฟอร์มนี้วันนี้ไหม?) - Does he have to attend the meeting?
(เขา ต้อง เข้าร่วมการประชุมไหม?) - Do we have to pay for parking?
(เราต้อง จ่ายเงิน ที่จอดรถไหม?)
III. ความแตกต่างของ Have to กับ must
แม้ว่าคำว่า “must” และ “have to” จะมีความหมายที่คล้ายกันและใช้ในบริบทที่คล้ายกัน (แสดงถึงความจำเป็นหรือข้อบังคับ) แต่ก็มีความแตกต่างในการใช้งาน:
1. Must vs Have to: ความแตกต่าง
- “Must” มักจะใช้ในกรณีที่ผู้พูดต้องการแสดงความจำเป็นหรือข้อบังคับจากมุมมองของตัวเอง เช่น การให้คำแนะนำหรือการบังคับที่มาจากความต้องการส่วนตัว
- “Have to” มักจะใช้เมื่อพูดถึงความจำเป็นที่เกิดจากสถานการณ์ภายนอก หรือข้อบังคับที่มาจากกฎระเบียบภายนอก เช่น ข้อบังคับจากองค์กรหรือข้อบังคับทางสังคม
ตัวอย่าง:
- I must do this for my health.
(ฉัน ต้อง ทำสิ่งนี้เพื่อสุขภาพของฉัน)
(ในกรณีนี้เป็นข้อบังคับจากตัวผู้พูดเอง) - I have to pay the taxes by Friday.
(ฉัน ต้อง จ่ายภาษีภายในวันศุกร์)
(ในกรณีนี้เป็นข้อบังคับจากภายนอก เช่น กฎระเบียบหรือกฎหมาย)
2. การใช้ในคำถาม
ในคำถาม, “have to” มักจะใช้มากกว่า “must” โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงข้อบังคับจากภายนอก เช่น กฎหมายหรือข้อบังคับของสถานที่
ตัวอย่าง:
- Do I have to wear a uniform at school?
(ฉัน ต้อง สวมเครื่องแบบที่โรงเรียนไหม?) - Must I wear a uniform at school?
(ฉัน ต้อง สวมเครื่องแบบที่โรงเรียนไหม?)
ทั้งสองประโยคมีความหมายเหมือนกัน แต่ “have to” มักใช้ในสถานการณ์ที่ต้องการเน้นข้อบังคับจากกฎระเบียบหรือสถานการณ์ภายนอก
การใช้ “have to กับ must” นั้นมีความคล้ายคลึงกันในการแสดงถึงความจำเป็นหรือข้อบังคับ แต่ก็มีความแตกต่างในการใช้งาน “must” มักแสดงถึงความจำเป็นจากตัวผู้พูดเอง ในขณะที่ “have to” ใช้เมื่อมีข้อบังคับหรือความจำเป็นที่มาจากภายนอก เช่น กฎระเบียบหรือสถานการณ์ต่างๆ การเข้าใจและฝึกใช้คำเหล่านี้จะช่วยให้คุณใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมมากขึ้น