คำนามนามธรรม (Abstract Nouns) เป็นความรู้พื้นฐานในไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่สำคัญที่คุณควรจดจำเมื่อเรียนภาษาอังกฤษ แล้วคำนามนามธรรมคืออะไร มีกี่ประเภท และมีความแตกต่างอย่างไรเมื่อเปรียบเทียบกับคำนามรูปธรรม มาค้นหาคำตอบได้ในบทความนี้เลย
I. คำนามนามธรรมคืออะไร
คำนามนามธรรม (Abstract Nouns) คือคำนามที่หมายถึงสิ่งที่ไม่มีตัวตน เช่น แนวคิด ความคิด ความรู้สึก สถานะ หรือปรากฏการณ์ที่ไม่สามารถจับต้องหรือวัดค่าได้โดยตรง คำนามนามธรรมไม่มีรูปร่าง เสียง หรือสถานที่ที่แน่นอน แต่แสดงถึงแนวคิดหรือความรู้สึกนามธรรม
ตัวอย่าง:
- Love (ความรัก)
- Happiness (ความสุข)
- Success (ความสำเร็จ)
- Freedom (เสรีภาพ)
- Knowledge (ความรู้)
คำนามนามธรรมเหล่านี้ช่วยให้เราสื่อถึงความคิดหรือความรู้สึกที่ไม่สามารถมองเห็นหรือจับต้องได้โดยตรง แต่มีบทบาทสำคัญในการสื่อสารและแสดงความหมายในภาษาอังกฤษ
II. ประเภทของคำนามนามธรรม (Abstract Nouns)
คำนามนามธรรม สามารถแบ่งประเภทตามความหมายเป็น 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ คำนามที่แสดงถึงความรู้สึก แนวคิดหรือไอเดีย สถานะหรือคุณสมบัติ และเหตุการณ์ ตัวอย่างในแต่ละกลุ่มมีดังนี้
ประเภทคำนาม | ตัวอย่าง |
คำนามนามธรรมเกี่ยวกับความรู้สึก (Emotions and Feelings) | Love (ความรัก)
Anger (ความโกรธ) Happiness (ความสุข) Sadness (ความเศร้า) |
คำนามนามธรรมเกี่ยวกับไอเดียและแนวคิด (Ideas and Concepts) | Knowledge (ความรู้)
Truth (ความจริง) Wisdom (ปัญญา) Beauty (ความงาม) Courage (ความกล้าหาญ) |
คำนามนามธรรมเกี่ยวกับสถานะและคุณสมบัติ (States and Qualities) | Freedom (เสรีภาพ)
Success (ความสำเร็จ) Kindness (ความใจดี) Confidence (ความมั่นใจ) |
คำนามเกี่ยวกับเหตุการณ์ (Events) | Meeting (การประชุม)
Holiday (วันหยุด) Conference (การสัมมนา) Wedding (งานแต่งงาน), |
III. การเปรียบเทียบคำนามรูปธรรมและคำนามนามธรรม
การแยกแยะระหว่าง คำนามรูปธรรม (Concrete Nouns) และ คำนามนามธรรม (Abstract Nouns) อาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับผู้เรียนภาษาอังกฤษ เนื่องจากบางคำมีลักษณะที่สามารถใช้ในทั้งสองรูปแบบได้
คำนามรูปธรรม | คำนามนามธรรม |
ความหมาย: หมายถึงสิ่งของ คน สัตว์ หรือวัตถุที่สามารถมองเห็น สัมผัส และรับรู้ได้ด้วยประสาทสัมผัส | ความหมาย: หมายถึงแนวคิด ความรู้สึก คุณสมบัติ หรือสถานะที่ไม่สามารถมองเห็นหรือสัมผัสได้ |
ลักษณะ: สามารถนับได้ และมีรูปพหูพจน์ | ลักษณะ: มักจะนับไม่ได้ และไม่มีรูปพหูพจน์ |
ลักษณะทางกายภาพ: มักมีรูปร่าง ขนาด สี หรือคุณสมบัติที่ชัดเจน | ลักษณะทางนามธรรม: อธิบายแง่มุมของชีวิต จิตใจ หรือสถานะที่เป็นนามธรรม |
ตัวอย่าง:
|
ตัวอย่าง:
|
คำนามที่สามารถเป็นทั้งรูปธรรมและนามธรรม
บางคำนามสามารถอยู่ได้ทั้งในหมวดรูปธรรมและนามธรรม ขึ้นอยู่กับบริบทที่ใช้ เช่น
- Light (แสงสว่าง)
- คำนามรูปธรรม: Light หมายถึงแสงจากแหล่งกำเนิด เช่น หลอดไฟหรือดวงอาทิตย์
- คำนามนามธรรม: Light หมายถึงความเข้าใจหรือความสว่างทางจิตใจ
ตัวอย่างประโยค:
- Light as a concrete noun: The light from the lamp was too dim.
(แสงจากโคมไฟสลัวเกินไป) - Light as an abstract noun: He finally saw the light and understood the solution.
(เขาเข้าใจทางออกในที่สุด)
การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างคำนามทั้งสองประเภทและการเรียนรู้การใช้คำในบริบทต่าง ๆ จะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะการใช้ภาษาอังกฤษได้ดียิ่งขึ้น!
IV. วิธีสร้าง Abstract Nouns
การสร้าง คำนามนามธรรม (Abstract Nouns) ในภาษาอังกฤษมีหลายวิธี ซึ่งขึ้นอยู่กับรูปแบบคำที่เราต้องการเปลี่ยนให้กลายเป็น Abstract Noun คำประเภทต่าง ๆ เช่น คำกริยา (Verb) คำคุณศัพท์ (Adjective) และคำนามอื่น ๆ สามารถเปลี่ยนเป็น Abstract Noun ได้โดยการเติมคำหรือตัดแต่งบางส่วน
1. การเปลี่ยนจากคำกริยา (Verb) เป็น Abstract Noun
คำกริยาสามารถเปลี่ยนเป็น Abstract Noun ได้โดยการเติม -tion, -ment, -ance, -ence, -ing, -al หรือคำต่อท้ายอื่น ๆ
ตัวอย่าง:
- Act → Action (การกระทำ)
- Decide → Decision (การตัดสินใจ)
- Move → Movement (การเคลื่อนไหว)
- Perform → Performance (การแสดง)
- Exist → Existence (การดำรงอยู่)
2. การเปลี่ยนจากคำคุณศัพท์ (Adjective) เป็น Abstract Noun
คำคุณศัพท์สามารถเปลี่ยนเป็น Abstract Noun ได้โดยการเติม -ness, -ity, -ance, -ence, -cy หรือคำต่อท้ายอื่น ๆ
ตัวอย่าง:
- Happy → Happiness (ความสุข)
- Kind → Kindness (ความใจดี)
- Strong → Strength (ความแข็งแกร่ง)
- Brave → Bravery (ความกล้าหาญ)
- Honest → Honesty (ความซื่อสัตย์)
3. การใช้คำนาม (Noun) อื่น ๆ เป็น Abstract Noun
คำนามบางคำสามารถใช้งานเป็น Abstract Noun ได้ทันทีโดยไม่ต้องเปลี่ยนรูป
ตัวอย่าง:
- Freedom (เสรีภาพ)
- Love (ความรัก)
- Justice (ความยุติธรรม)
- Beauty (ความงาม)
- Friendship (มิตรภาพ)
4. การสร้าง Abstract Nouns จากการเพิ่มคำต่อท้าย (Suffix)
Suffix ที่นิยมใช้ในการสร้าง Abstract Nouns ได้แก่:
Suffix | ความหมาย | ตัวอย่าง |
-tion | การกระทำ หรือผลลัพธ์ของการกระทำ | Create → Creation (การสร้าง) |
-ment | กระบวนการ หรือผลของการกระทำ | Achieve → Achievement (ความสำเร็จ) |
-ness | สถานะ หรือคุณสมบัติ | Weak → Weakness (ความอ่อนแอ) |
-ity | สถานะ หรือคุณสมบัติ | Able → Ability (ความสามารถ) |
-ance/-ence | การกระทำ หรือสถานะ | Perform → Performance (การแสดง) |
-cy | สถานะ หรือคุณลักษณะ | Private → Privacy (ความเป็นส่วนตัว) |
5. การเปลี่ยนโดยไม่ต้องเพิ่มคำต่อท้าย
ในบางกรณีคำเดิมสามารถทำหน้าที่เป็น Abstract Noun ได้โดยตรง
ตัวอย่าง:
- Hope (ความหวัง)
- Fear (ความกลัว)
- Faith (ความเชื่อ)
V. แบบฝึกหัดคำนามนามธรรมในภาษาอังกฤษพร้อมเฉลย
ลองฝึกฝนแบบฝึกหัดต่อไปนี้เพื่อช่วยให้คุณจดจำคำนามนามธรรมในภาษาอังกฤษและแยกแยะระหว่างคำนามรูปธรรมและคำนามนามธรรม
แบบฝึกหัดที่ 1:
จัดเรียงคำนามต่อไปนี้ให้อยู่ในคอลัมน์ที่เหมาะสม (คำนามนามธรรม หรือ คำนามรูปธรรม)
คำที่กำหนด:
- Hope
- Patience
- Dog
- Chair
- Honesty
- Fear
- House
- Friendship
- Success
- Knowledge
- Bicycle
- Mountain
- Joy
- Flower
- Phone
- Peace
- Coffee
- Beauty
- Shirt
- Pizza
คำตอบ:
คำนามนามธรรม (Abstract Nouns) | คำนามรูปธรรม (Concrete Nouns) |
Hope (ความหวัง) | Dog (สุนัข) |
Patience (ความอดทน) | Chair (เก้าอี้) |
Honesty (ความซื่อสัตย์) | House (บ้าน) |
Fear (ความกลัว) | Bicycle (จักรยาน) |
Friendship (มิตรภาพ) | Mountain (ภูเขา) |
Success (ความสำเร็จ) | Flower (ดอกไม้) |
Knowledge (ความรู้) | Phone (โทรศัพท์) |
Joy (ความสุข) | Coffee (กาแฟ) |
Peace (ความสงบ) | Shirt (เสื้อ) |
Beauty (ความงาม) | Pizza (พิซซ่า) |
ด้านบนคือข้อมูลครบถ้วนเกี่ยวกับ คำนามนามธรรม ในภาษาอังกฤษ รวมถึงวิธีแยกแยะระหว่างคำนามนามธรรมและคำนามรูปธรรม หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจแนวคิด การจัดประเภท และการใช้งานคำนามนามธรรมได้อย่างยืดหยุ่น อย่าลืมศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่น่าสนใจบน Theieltsclub.com เพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะของคุณให้ดียิ่งขึ้น!