The IELTS Club x Prepedu

By the time คืออะไร? วิธีใช้โครงสร้างและตัวอย่างในภาษาอังกฤษ

ในบทความนี้เราจะพูดถึงคำว่า “By the time” คืออะไร, วิธีการใช้โครงสร้างนี้ในภาษาอังกฤษ, รวมถึงความแตกต่างระหว่าง “By the time” กับ “When” และ “Until” พร้อมตัวอย่างการใช้ที่ชัดเจน ช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ในการเรียนภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจ

I. By the time คืออะไร?

ในภาษาอังกฤษ “By the time” คือสำนวนที่ใช้เพื่อบอกถึงช่วงเวลา ณ จุดหนึ่งในอนาคต หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหรือพร้อมกับเหตุการณ์อื่นที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต มักใช้ในการพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอนาคตโดยมีการเน้นที่เวลาเมื่อเหตุการณ์หนึ่งจะเกิดขึ้น

ตัวอย่างเช่น:

  • By the time I arrive, she will have left.
    (เมื่อฉันมาถึง, เธอจะจากไปแล้ว)

ในประโยคนี้ “By the time” แสดงถึงช่วงเวลาหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนที่อีกเหตุการณ์หนึ่งจะเกิดขึ้น

II. โครงสร้างและการใช้ By the time

ในส่วนนี้เราจะมาพูดถึงโครงสร้างและวิธีการใช้ “By the time” ในภาษาอังกฤษ โดยจะมีตัวอย่างและการใช้ในกรณีต่าง ๆ เช่น การใช้ใน ปัจจุบัน (Present), อนาคต (Future), และ อดีต (Past) ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจและใช้โครงสร้างนี้ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

1. By the time กับปัจจุบัน (Simple Present) – อนาคตสมบูรณ์ (Future Perfect)

การใช้ “By the time” เมื่อเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นในปัจจุบันและเหตุการณ์อีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นในอนาคต มีโครงสร้างดังนี้:

เมื่อเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นในปัจจุบันและเหตุการณ์อีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นในอนาคต:

  • By the time + S1 + am/is/are + …, S2 + will + V-inf
    • ตัวอย่าง:
      “By the time the bus arrives, I will be at the station.”
      (เมื่อรถบัสมาถึง, ฉันจะอยู่ที่สถานีแล้ว)
  • By the time + S1 + V1, S2 + will + V-inf
    • ตัวอย่าง:
      “By the time I finish my homework, she will leave.”
      (เมื่อฉันทำการบ้านเสร็จ, เธอจะออกไปแล้ว)

By the time กับปัจจุบัน (Simple Present) - อนาคตสมบูรณ์ (Future Perfect)

เมื่อทั้งสองเหตุการณ์เกิดขึ้นในอนาคต:

  • By the time + S1 + V1 +…, S2 + will + have + V3
    • ตัวอย่าง:
      “By the time we arrive, they will have left the house.”
      (เมื่อเรามาถึง, พวกเขาจะออกจากบ้านไปแล้ว)
  • By the time + S1 + am/is/are + …, S2 + will + have + V3
    • ตัวอย่าง:
      “By the time I am done with the project, you will have finished your work.”
      (เมื่อฉันทำโปรเจ็กต์เสร็จ, คุณจะทำงานเสร็จแล้ว)

2. By the time กับอดีต (Past Tense)

เมื่อใช้ “By the time” กับอดีต มักใช้เพื่อพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ในอดีตที่ตามมา โดยโครงสร้างจะเป็น:

  • By the time + S1 + was/were + …, S2 + had + V3
    • ตัวอย่าง:
      “By the time he was 20, he had already traveled to 10 countries.”
      (เมื่อเขาอายุ 20 ปี, เขาก็เดินทางไป 10 ประเทศแล้ว)
  • By the time + S1 + V2/ed + …, S2 + had + V3/ed + …
    • ตัวอย่าง:
      “By the time I arrived at the station, the train had already left.”
      (เมื่อฉันมาถึงสถานี, รถไฟก็จากไปแล้ว)

ในโครงสร้างเหล่านี้ “By the time” ใช้เพื่อบอกว่าเหตุการณ์ที่หนึ่งเกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์อื่นในอดีตหรือในอนาคต โดยใช้ “had” เพื่อแสดงถึงเหตุการณ์ที่เกิดก่อนในอดีต หรือ “will have” สำหรับเหตุการณ์ในอนาคต

III. ความแตกต่างระหว่างโครงสร้าง By the time กับ When & Until

1. ความแตกต่างระหว่างโครงสร้าง By the time กับ When

“By the time” ใช้เพื่อบอกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหรือพร้อมกับเหตุการณ์อื่นที่กล่าวถึงในอนาคต ขณะที่ “When” มักใช้สำหรับการพูดถึงเวลาที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้นในอนาคตหรือในอดีต

ตัวอย่าง:

  • By the time I finish the task, she will have gone home.
    (เมื่อฉันทำงานเสร็จ, เธอจะกลับบ้านแล้ว)
  • When I finish the task, she will go home.
    (เมื่อฉันทำงานเสร็จ, เธอจะกลับบ้าน)

ในตัวอย่างนี้ “By the time” ใช้เพื่อพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนที่อีกเหตุการณ์หนึ่งจะเกิดขึ้น, ในขณะที่ “When” ใช้ในการพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกันในเวลาเดียวกัน

2. ความแตกต่างระหว่างโครงสร้าง By the time กับ Until

“By the time” ใช้เพื่อพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหรือพร้อมกับเหตุการณ์อื่นที่กำลังจะเกิดขึ้น, ขณะที่ “Until” ใช้เพื่อพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจนถึงจุดเวลาหนึ่งในอนาคต

ตัวอย่าง:

  • By the time we get there, the concert will have ended.
    (เมื่อเราถึงที่นั่น, คอนเสิร์ตจะจบไปแล้ว)
  • I will wait until the concert ends.
    (ฉันจะรอจนกว่าคอนเสิร์ตจะจบ)

ในตัวอย่างนี้ “By the time” ใช้เพื่อบอกว่าคอนเสิร์ตจะจบก่อนที่เราจะถึง, ในขณะที่ “Until” ใช้ในการพูดถึงการรอจนกว่าจะถึงเวลาสิ้นสุดของเหตุการณ์

IV. แบบฝึกหัดการใช้ By the time

แบบฝึกหัดที่ 1: เติมคำในช่องว่าง

  1. By the time she __________ (arrive), we __________ (leave).
  2. By the time they __________ (finish), I __________ (arrive).
  3. I __________ (read) this book by the time you __________ (come).
  4. By the time we __________ (finish), it __________ (rain).
  5. We __________ (eat) lunch by the time she __________ (arrive).

แบบฝึกหัดที่ 2: ตอบคำถาม

  1. By the time you go to bed tonight, what will you have done?
  2. How will you use by the time to describe something you are planning for tomorrow?

บทความนี้ได้อธิบายคำว่า “by the time” ว่าคืออะไร และนำเสนอโครงสร้างและการใช้งานในประโยคต่าง ๆ เพื่อช่วยในการสื่อสารอย่างถูกต้อง พร้อมทั้งเปรียบเทียบ “by the time” กับ “when” และ “until” ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจถึงความแตกต่างในการใช้แต่ละโครงสร้างได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีแบบฝึกหัดที่ช่วยฝึกการใช้ by the time ในการเขียนประโยคต่าง ๆ

5/5 - (1 vote)
The IELTS Club x Prepedu

รายการบทความ

บางทีคุณอาจสนใจ

If Clause Type 0

เจาะลึก If Clause Type 0 (Zero Conditional): ประโยคเงื่อนไข “ความจริงแท้” ที่ต้องรู้ โครงสร้าง วิธีใช้ ตัวอย่างครบ

0
คุณกำลังศึกษาเกี่ยวกับ If Clause Type 0 - หนึ่งในโครงสร้างประโยคเงื่อนไขที่สำคัญในภาษาอังกฤษ? บทความนี้จะให้ความรู้เต็มรูปแบบเกี่ยวกับโครงสร้าง, การใช้งาน และแบบฝึกหัดเกี่ยวกับ If Clause Type 0 เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างชำนาญในการสื่อสารและการเขียน มาติดตามกันเลย! I. If Clause Type 0 คืออะไร? ทำความเข้าใจแก่นแท้ของประโยคเงื่อนไขแบบศูนย์ If clause type...
If Clause Type 3

If Clause Type 3 (ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 3): โครงสร้าง วิธีใช้ ตัวอย่าง เข้าใจง่ายในหน้าเดียว!

0
ประโยคเงื่อนไข (If Clause) เป็นโครงสร้างทางไวยากรณ์ที่สำคัญในภาษาอังกฤษ ช่วยให้เราสื่อสารความสัมพันธ์ระหว่าง "เงื่อนไข" กับ "ผลลัพธ์" ได้อย่างชัดเจน ในภาษาอังกฤษมีประโยคเงื่อนไขหลายประเภท ได้แก่ Type 0 (ความจริงทั่วไป), Type 1 (ความเป็นไปได้ในอนาคต), Type 2 (สถานการณ์สมมติในปัจจุบัน), Type 3 (สถานการณ์สมมติในอดีต) และ...
Modal verbs

Modal Verb คืออะไร? สรุปหลักการใช้กริยาช่วย เข้าใจง่าย ฉบับสมบูรณ์

0
ในการสื่อสารภาษาอังกฤษให้มีมิติลึกซึ้ง คุณจำเป็นต้องเข้าใจเครื่องมือสำคัญอย่าง Modal Verb คือ "กริยาช่วยชนิดพิเศษ" ที่เพิ่มความหมายให้ประโยคของคุณมีรายละเอียดมากขึ้น Modal verb คือกุญแจที่ช่วยให้คุณสื่อสารได้ตรงจุดประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงความสามารถ บอกความเป็นไปได้ หรือขออนุญาต การเข้าใจ modal verb คือการเปิดประตูไปสู่การใช้ภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้คุณสื่อเจตนา อารมณ์ และทัศนคติได้อย่างแม่นยำในทุกบริบทการสนทนา บทความนี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยคุณเอาชนะหัวข้อไวยากรณ์สำคัญนี้อย่างมีประสิทธิภาพ มาร่วมค้นพบความรู้และแบบฝึกหัดที่มีประโยชน์เกี่ยวกับ Modal verbs กันเลย! I....
If Clause Type 1

If Clause Type 1 (First Conditional): โครงสร้าง วิธีใช้ ตัวอย่าง แบบฝึกหัด และข้อควรระวัง ฉบับสมบูรณ์

0
คุณต้องการที่จะเชี่ยวชาญไวยากรณ์ภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่? มาค้นพบ "If Clause Type 1" - ประโยคเงื่อนไขประเภท 1, หัวข้อสำคัญในการสื่อสารภาษาอังกฤษ บทความนี้จะให้ความรู้ที่ครบถ้วนเกี่ยวกับโครงสร้าง, การใช้งาน, คำแนะนำต่างๆ และรูปแบบการเปลี่ยนแปลงของ If Clause Type 1, ช่วยให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างชำนาญในทุกสถานการณ์ อย่าพลาดบทความที่มีประโยชน์นี้นะ! I. If Clause Type 1...
If Clause Type 2

ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 2 (If Clause Type 2): คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับคนไทย เข้าใจง่าย ใช้ได้จริง

0
คุณกำลังพบปัญหาในการใช้ "If Clause Type 2" (ประโยคเงื่อนไขประเภท 2) ในภาษาอังกฤษหรือไม่? บทความนี้จะให้ความรู้เกี่ยวกับโครงสร้าง, การใช้งาน, การแปรผัน และแบบฝึกหัดที่เกี่ยวข้องกับประเภทประโยคเงื่อนไขนี้แก่คุณ มาค้นพบกันเลยเพื่อเพิ่มพูนทักษะภาษาอังกฤษของคุณ! I. If Clause Type 2 คืออะไร? If clause type 2 คือประโยคเงื่อนไขที่ใช้พูดถึงสถานการณ์ที่ "ตรงข้ามกับความเป็นจริงในปัจจุบัน" หรือ...

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

โพสต์ใหม่

ความแตกต่างระหว่าง because กับ because of และการใช้ในภาษาอังกฤษ

Grammar
Read more