Causative verbs คือคำกริยาที่ใช้เพื่อแสดงการทำให้เกิดการกระทำในภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นหัวข้อสำคัญสำหรับผู้เรียนภาษา ในบทความนี้ คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับโครงสร้างของ causative form หลักการใช้คำกริยาในกลุ่มนี้ และตัวอย่างที่เข้าใจง่าย รวมถึงแบบฝึกหัดท้ายบทเพื่อช่วยให้คุณใช้งานได้อย่างคล่องแคล่ว

I. Causative verbs คืออะไร ?

Causative verbs คือคำกริยาที่แสดงให้เห็นว่าผู้พูดไม่ได้กระทำการเอง แต่ทำให้ผู้อื่นหรือสิ่งอื่นทำการนั้น เช่น “He made me laugh.” (เขาทำให้ฉันหัวเราะ) ซึ่งคำกริยาหลักที่ใช้ในกลุ่มนี้ ได้แก่ make, let, have, get, help, force, permit, allow, keep

การเรียนรู้และเข้าใจคำกริยากลุ่มนี้สำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาทักษะการพูดและเขียนในภาษาอังกฤษ

II. โครงสร้างและหลักการใช้ Causative Verbs ในภาษาอังกฤษ

ในส่วนนี้ เราจะมาดูโครงสร้างและวิธีการใช้ causative verbs ในประโยคภาษาอังกฤษ โดยแบ่งเป็นแต่ละคำกริยาที่พบบ่อย

1. Let

Let หมายถึง “อนุญาต” หรือ “ปล่อยให้” ใช้ในสถานการณ์ที่บุคคลหนึ่งยินยอมให้ผู้อื่นกระทำบางสิ่งโดยไม่มีการบังคับ

• โครงสร้าง: Subject + let + someone + base verb
• ตัวอย่าง:
  • My parents let me go to the party. (พ่อแม่อนุญาตให้ฉันไปงานปาร์ตี้)
  • The teacher didn’t let the students use their phones. (ครูไม่อนุญาตให้นักเรียนใช้โทรศัพท์)
  • She let her son play outside. (เธออนุญาตให้ลูกชายเล่นข้างนอก)

คำว่า “let” ใช้ในสถานการณ์ที่มีการอนุญาตโดยไม่บังคับ

2. Make, Force, Require

Make, Force, และ Require เป็น causative verbs ที่มีความหมายเกี่ยวกับการ “ทำให้” หรือ “บังคับให้” ผู้อื่นทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่แตกต่างกันในระดับของความบังคับและความหมายเฉพาะตัว

• โครงสร้าง: Subject + make + someone + base verb
• ตัวอย่าง:
  • The teacher made the students clean the classroom. (ครูบังคับให้นักเรียนทำความสะอาดห้องเรียน)
  • He made her laugh with his jokes. (เขาทำให้เธอหัวเราะด้วยเรื่องตลกของเขา)
• Force / Require: ใช้ในกรณีที่ต้องการเน้นการบังคับอย่างเข้มงวด
  • The law requires drivers to wear seat belts. (กฎหมายกำหนดให้ผู้ขับขี่ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย)
  • The boss forced the team to work overtime. (หัวหน้าบังคับให้ทีมทำงานล่วงเวลา)

3. Get

Get เป็นหนึ่งใน causative verbs ที่หมายถึง “ทำให้” หรือ “โน้มน้าวให้” ผู้อื่นทำบางสิ่งบางอย่าง การใช้ get มีความหมายเชิงชักชวนหรือการกระตุ้นให้ผู้อื่นกระทำ

• โครงสร้าง: Subject + get + someone + to + base verb
• ตัวอย่าง:
  • She got her friend to help her move. (เธอทำให้เพื่อนช่วยเธอย้ายของ)
  • We got the plumber to fix the sink. (พวกเราทำให้ช่างประปาซ่อมอ่างล้างจาน)

Get มีความหมายถึงการกระตุ้นหรือโน้มน้าวให้ใครบางคนทำบางสิ่ง

4. Have

Have เป็น causative verb ที่หมายถึง “ให้” หรือ “ทำให้” ใช้ในสถานการณ์ที่ต้องการให้บุคคลอื่นทำบางสิ่งโดยการมอบหมายหรือร้องขอ

• โครงสร้าง: Subject + have + someone + base verb
• ตัวอย่าง:
  • I had my assistant prepare the documents. (ฉันให้ผู้ช่วยเตรียมเอกสาร)
  • I had the technician repair the air conditioner. (ฉันให้ช่างซ่อมเครื่องปรับอากาศ)

5. Help

Help เป็น causative verb ที่หมายถึง “ช่วย” หรือ “ช่วยให้” ใช้เพื่อแสดงว่าผู้กระทำได้ช่วยเหลือผู้อื่นให้ทำบางสิ่งบางอย่าง การใช้ help มีความยืดหยุ่นในการสร้างประโยค

• โครงสร้าง: Subject + help + someone + (to) + base verb
• ตัวอย่าง:
  • The teacher helped the students complete the project. (ครูช่วยนักเรียนทำโปรเจกต์ให้เสร็จ)
  • I was helped by a kind stranger. (ฉันได้รับความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้าที่ใจดี)

Help สามารถใช้ได้ทั้งแบบมี “to” หรือไม่มี “to”

6. Permit / Allow

Permit และ Allow เป็น causative verbs ที่หมายถึง “อนุญาต” หรือ “ยอมให้” การใช้ทั้งสองคำนี้มีโครงสร้างและการทำหน้าที่คล้ายกัน โดยแสดงถึงการให้สิทธิหรือการอนุญาตให้บุคคลหนึ่งทำบางสิ่งบางอย่าง

• โครงสร้าง: Subject + permit/allow + someone + to + base verb
• ตัวอย่าง:
  • She doesn’t allow her kids to play video games on weekdays. (เธอไม่อนุญาตให้ลูก ๆ เล่นวิดีโอเกมในวันธรรมดา)
  • The app allows users to upload their photos. (แอปพลิเคชันนี้อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถอัปโหลดรูปภาพของพวกเขา)
  • The company doesn’t permit employees to access social media during work hours. (บริษัทไม่อนุญาตให้พนักงานเข้าถึงโซเชียลมีเดียในเวลางาน)

7. Keep

Keep เป็น causative verb ที่หมายถึง “ทำให้คงอยู่” หรือ “รักษาให้เกิดขึ้น” ใช้ในสถานการณ์ที่ผู้กระทำต้องการให้บางสิ่งหรือบางคนยังคงอยู่ในสภาพหรือสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่ง

• โครงสร้าง: Subject + keep + someone/something + adjective
• ตัวอย่าง:
  • The music kept everyone dancing all night. (เสียงเพลงทำให้ทุกคนเต้นรำตลอดทั้งคืน)
  • He couldn’t keep the baby quiet. (เขาไม่สามารถทำให้เด็กเงียบได้)

อ้างอิง: Irregular Verbs คืออะไร? รู้จักคำกริยาผันแปลกและตารางคำกริยาผันแปลก

III. แบบฝึกหัดเกี่ยวกับ Causative verbs

ต่อไปนี้เป็นแบบฝึกหัดที่ออกแบบมาเพื่อฝึกความเข้าใจและการใช้ causative verbs ในสถานการณ์ต่าง ๆ โดยครอบคลุม Let, Make, Get, Have, Help, Permit/Allow, และ Keep

แบบฝึกหัดที่ 1: เลือกคำตอบที่ถูกต้อง

เลือกคำตอบที่ถูกต้องสำหรับประโยคต่อไปนี้

1. My mother always _______ me clean my room.
   a) let
   b) makes
   c) helps
2. The coach _______ the players practice until they improved their skills.
   a) let
   b) kept
   c) helped
3. He didn’t _______ me take a day off even though I wasn’t feeling well.
   a) allow
   b) get
   c) have
4. The teacher _______ the students rewrite the essay to improve their scores.
   a) made
   b) kept
   c) permitted
5. They _______ him wait outside for hours before letting him in.
   a) helped
   b) made
   c) kept

แบบฝึกหัดที่ 2: แปลงประโยค

เปลี่ยนประโยคต่อไปนี้ให้อยู่ในรูปที่ใช้ causative verbs

1. She asked someone to fix her car.
   → She _______ her car fixed.
2. The manager instructed the team to complete the report.
   → The manager _______ the team complete the report.
3. He forced the dog to stay outside.
   → He _______ the dog stay outside.
4. I allowed my friend to borrow my book.
   → I _______ my friend borrow my book.
5. They helped us carry the heavy boxes.
   → They _______ us carry the heavy boxes.

Causative verbs คือคำกริยาที่สำคัญสำหรับการสื่อสารในภาษาอังกฤษ เพราะช่วยเพิ่มความหลากหลายและความแม่นยำในการสื่อความหมาย การเข้าใจโครงสร้างและการใช้งานอย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่าลืมทำแบบฝึกหัดเพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้น!