ชุดความรู้เกี่ยวกับคำวิเศษณ์บอกสถานที่ (Adverbs of Place)

คำวิเศษณ์บอกสถานที่ (Adverbs of Place) เป็นส่วนสำคัญในไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่ช่วยให้เราสามารถอธิบายตำแหน่งหรือสถานที่ที่การกระทำเกิดขึ้นได้ ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำวิเศษณ์บอกสถานที่ ประเภท และวิธีการใช้งาน พร้อมแบบฝึกหัดเพื่อพัฒนาทักษะของคุณ

I. คำวิเศษณ์บอกสถานที่คืออะไร

1. แนวคิด

คำวิเศษณ์บอกสถานที่ (Adverbs of Place) คือคำที่ใช้เพื่ออธิบายตำแหน่งหรือสถานที่ที่การกระทำเกิดขึ้น ช่วยให้เราแสดงข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่ง ทิศทาง ระยะทาง และสถานที่ในประโยคได้อย่างชัดเจน

ตัวอย่างใหม่:

  • The dog ran quickly to the gate and stopped near the tree. (สุนัขวิ่งไปที่ประตูอย่างรวดเร็วและหยุดใกล้ต้นไม้)
  • The meeting will take place somewhere quiet where we can focus. (การประชุมจะจัดขึ้นในที่ที่เงียบสงบซึ่งเราสามารถตั้งใจได้)

คำวิเศษณ์บอกสถานที่ (Adverbs of Place)

2. ประเภทของคำวิเศษณ์บอกสถานที่

คำวิเศษณ์บอกสถานที่แบ่งออกได้เป็นหลายประเภท ดังนี้:

  • คำวิเศษณ์บอกตำแหน่ง: Here (ที่นี่), There (ที่นั่น)
  • คำวิเศษณ์บอกสถานที่ไม่ระบุแน่ชัด: Anywhere (ที่ไหนก็ได้), Somewhere (บางที่), Nowhere (ไม่มีที่ไหนเลย)
  • คำวิเศษณ์บอกทิศทาง: Across (ข้าม), Ahead (ข้างหน้า), Behind (ข้างหลัง), Above (ด้านบน), Below (ด้านล่าง), Between (ระหว่าง), เป็นต้น
  • คำวิเศษณ์บอกระยะทาง: From (จาก), Away (ไกล), Near (ใกล้), Far (ไกล), เป็นต้น

II. วิธีการใช้คำวิเศษณ์บอกสถานที่

วิธีการใช้คำวิเศษณ์บอกสถานที่

1. คำวิเศษณ์บอกตำแหน่ง: here, there

คำวิเศษณ์บอกตำแหน่ง เช่น here และ there ใช้เพื่ออธิบายตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับผู้พูด here ใช้เพื่อบอกถึงสิ่งที่อยู่ใกล้กับผู้พูด ขณะที่ there ใช้เพื่ออธิบายสิ่งที่อยู่ไกลจากผู้พูดในบริบทนั้น

ตัวอย่างใหม่:

  • I left the keys here on the counter (ฉันวางกุญแจไว้ตรงนี้บนเคาน์เตอร์)
  • This event will take place here in the main hall (งานนี้จะจัดขึ้นที่นี่ในห้องโถงใหญ่)
  • I see a tall building over there by the river (ฉันเห็นตึกสูงอยู่ตรงนั้นข้างแม่น้ำ)
  • Let’s head there to check out the new café (เราไปที่นั่นเพื่อลองร้านกาแฟใหม่กันเถอะ)

2. คำวิเศษณ์บอกสถานที่ไม่แน่นอน: everywhere, somewhere, anywhere, nowhere

คำวิเศษณ์บอกสถานที่ไม่แน่นอน เช่น everywhere, somewhere, anywhere, nowhere มักวางไว้ต้นประโยค ท้ายประโยค หรือใช้ร่วมกับกริยาที่มีการสลับลำดับ

ตัวอย่างใหม่:

  • Anywhere: You can find delicious food anywhere in this city (คุณสามารถหาอาหารอร่อยได้ทุกที่ในเมืองนี้)
  • Somewhere: I kept the receipt somewhere in my bag (ฉันเก็บใบเสร็จไว้ที่ไหนสักแห่งในกระเป๋าของฉัน)
  • Nowhere: She feels like she belongs nowhere in this crowded place (เธอรู้สึกเหมือนไม่มีที่ของเธอในสถานที่ที่แออัดแห่งนี้)

3. คำวิเศษณ์บอกทิศทาง: across, ahead

คำวิเศษณ์บอกทิศทาง เช่น across, ahead ใช้เพื่ออธิบายการเคลื่อนที่หรือการชี้ทิศทางของสิ่งต่าง ๆ

ตัวอย่างใหม่:

  • Across: The kids ran across the field to catch the ball (เด็ก ๆ วิ่งข้ามสนามไปจับลูกบอล)
  • Ahead: The museum is just ahead on your left (พิพิธภัณฑ์อยู่ข้างหน้าทางซ้ายมือของคุณ)

4. คำวิเศษณ์บอกระยะทาง: nearby, from, away

คำวิเศษณ์เหล่านี้ใช้เพื่ออธิบายระยะทางระหว่างสิ่งต่าง ๆ ที่กล่าวถึงในประโยค

ตัวอย่างใหม่:

  • Nearby: There’s a pharmacy nearby where we can buy medicine (มีร้านขายยาใกล้ ๆ ที่เราสามารถซื้อยาได้)
  • From: The train station is about 10 kilometers from here (สถานีรถไฟอยู่ห่างจากที่นี่ประมาณ 10 กิโลเมตร)
  • Away: The noise from the festival could be heard miles away (เสียงจากงานเทศกาลได้ยินไปไกลหลายไมล์)

อ้างอิง: Adverb คืออะไร? เจาะลึก 8 ประเภทที่ควรรู้!

III. ตำแหน่งของคำวิเศษณ์บอกสถานที่ในประโยค

เช่นเดียวกับคำวิเศษณ์ประเภทอื่น ๆ คำวิเศษณ์บอกสถานที่สามารถวางในตำแหน่งต่าง ๆ ของประโยคได้ ด้านล่างคือคำอธิบายเกี่ยวกับตำแหน่งที่พบได้บ่อยของคำวิเศษณ์บอกสถานที่

1. คำวิเศษณ์บอกสถานที่มักวางหลังคำกริยาแท้

คำวิเศษณ์บอกสถานที่มักวางหลังคำกริยาแท้ในประโยค หากคำกริยานั้นเป็น อกรรมกริยา (intransitive verb)

โครงสร้าง:
Subject + Main verb (intransitive verb) + Adverb of Place

ตัวอย่างใหม่:

  • The butterflies danced gracefully in the air (ผีเสื้อเต้นระบำอย่างสง่างามในอากาศ)
  • The students sat quietly under the tree (นักเรียนเหล่านั้นนั่งเงียบ ๆ ใต้ต้นไม้)
  • The leaves fell gently onto the ground (ใบไม้ร่วงอย่างแผ่วเบาลงบนพื้น)

หากคำกริยาในประโยคเป็น สกรรมกริยา (transitive verb) คำวิเศษณ์บอกสถานที่จะวางไว้หลังกรรมของคำกริยานั้น เพื่ออธิบายสถานที่ที่การกระทำเกิดขึ้น

โครงสร้าง:
Subject + Main verb (transitive verb) + Object + Adverb of Place

ตัวอย่างใหม่:

  • She placed her glasses carefully on the table (เธอวางแว่นตาของเธอไว้อย่างระมัดระวังบนโต๊ะ)
  • The chef served the dishes elegantly at the counter (เชฟเสิร์ฟอาหารอย่างสง่างามที่เคาน์เตอร์)
  • They stacked the boxes neatly in the corner (พวกเขาวางกล่องไว้อย่างเป็นระเบียบที่มุมห้อง)

2. คำวิเศษณ์บอกสถานที่วางก่อนคำวิเศษณ์บอกเวลา

หากในประโยคมีทั้งคำวิเศษณ์บอกสถานที่และคำวิเศษณ์บอกเวลา คำวิเศษณ์บอกสถานที่จะวางไว้ก่อนคำวิเศษณ์บอกเวลา

ตัวอย่างใหม่:

  • There is a small bookstore nearby that opens every afternoon (มีร้านหนังสือเล็ก ๆ ใกล้ ๆ ที่เปิดทุกบ่าย)
  • We will meet at the coffee shop downtown later tonight (เราจะพบกันที่ร้านกาแฟในตัวเมืองคืนนี้)

3. ตำแหน่งพิเศษของ “here” และ “there”

คำว่า here และ there มักวางไว้ต้นประโยคเพื่อบ่งบอกสถานที่ที่ผู้พูดกำลังพูดถึงหรืออยู่ในขณะนั้น

ตัวอย่างใหม่:

  • Here, take this invitation for the event (นี่ รับคำเชิญสำหรับงานนี้ไว้)
  • There is a bird perched on the branch (มีนกตัวหนึ่งเกาะอยู่บนกิ่งไม้)

หากประธานในประโยคเป็นคำสรรพนาม จะไม่มีการใช้รูปแบบประโยคแบบสลับตำแหน่ง ในกรณีนี้โครงสร้างประโยคจะเป็น:

Here/There + คำสรรพนาม + คำกริยา

ตัวอย่างใหม่:

  • Here it is! (นี่ไงล่ะ!)
  • There you are! (นั่นคุณเอง!)

IV. แบบฝึกหัดคำวิเศษณ์บอกสถานที่พร้อมคำตอบ

แบบฝึกหัด 1: เติมคำวิเศษณ์บอกสถานที่ที่เหมาะสมในช่องว่าง โดยเลือกคำตอบจากตัวเลือกที่ให้

  1. She searched __________ for her lost earrings, but couldn’t find them.
    A. here
    B. there
    C. everywhere
    D. nowhere
  2. The kids were playing __________ behind the house.
    A. here
    B. there
    C. somewhere
    D. nowhere
  3. The delivery truck stopped __________ near the entrance.
    A. here
    B. there
    C. ahead
    D. across
  4. There’s a bench __________ the river where we can rest.
    A. near
    B. across
    C. above
    D. behind
  5. Keep the children __________ from the edge of the cliff.
    A. here
    B. there
    C. away
    D. nearby

คำตอบ:

  1. C. everywhere
  2. C. somewhere
  3. C. ahead
  4. A. near
  5. C. away

นี่คือทฤษฎีและแบบฝึกหัดเกี่ยวกับคำวิเศษณ์บอกสถานที่ในภาษาอังกฤษ การเข้าใจและใช้งานคำวิเศษณ์เหล่านี้อย่างถูกต้องจะช่วยเพิ่มความชัดเจนและความน่าสนใจให้กับประโยคของคุณ อย่าลืมศึกษาบทความอื่น ๆ ที่แบ่งปันความรู้ไวยากรณ์ที่มีประโยชน์เพิ่มเติมในบล็อกนี้นะคะ!

5/5 - (1 vote)

รายการบทความ

บางทีคุณอาจสนใจ

If Clause Type 0

ประโยค If Clause Type 0 (Zero conditional): สูตร, การใช้งาน, แบบฝึกหัด

0
คุณกำลังศึกษาเกี่ยวกับ If Clause Type 0 - หนึ่งในโครงสร้างประโยคเงื่อนไขที่สำคัญในภาษาอังกฤษ? บทความนี้จะให้ความรู้เต็มรูปแบบเกี่ยวกับโครงสร้าง, การใช้งาน และแบบฝึกหัดเกี่ยวกับ If Clause Type 0 เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างชำนาญในการสื่อสารและการเขียน มาติดตามกันเลย! I. ประโยค If Clause Type 0 คืออะไร? If Clause Type...
Modal verbs

Modal verbs คืออะไร? วิธีการใช้กริยาช่วยและแบบฝึกหัดพร้อมคำตอบ

0
คุณกำลังประสบปัญหาในการเรียนรู้ Modal verbs - กริยาช่วยในภาษาอังกฤษหรือไม่? บทความนี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยคุณเอาชนะหัวข้อไวยากรณ์สำคัญนี้อย่างมีประสิทธิภาพ มาร่วมค้นพบความรู้และแบบฝึกหัดที่มีประโยชน์เกี่ยวกับ Modal verbs กันเลย! I. Modal Verbs มีอะไรบ้าง? กริยาช่วย (Modal Verbs) หรือที่เรียกว่า กริยาช่วยหรือกริยาแสดงความรู้สึก มีหน้าที่แสดงความจำเป็นและหมายความในประโยค รวมถึงความสามารถ การอนุญาต ความจำเป็น การคาดการณ์ และอื่นๆ ประกอบด้วย...
If Clause Type 3

ความรู้เกี่ยวกับประโยคเงื่อนไขประเภท 3 (If Clause Type 3) และแบบฝึกหัด

0
คุณกำลังพบปัญหาในการเรียน If Clause Type 3 หรือไม่? บทความนี้จะมอบความรู้เต็มรูปแบบเกี่ยวกับโครงสร้าง, การใช้งาน, การแปรผัน และแบบฝึกหัดที่มีคำตอบเกี่ยวกับ If Clause Type 3 ให้กับคุณ ติดตามกันเลยเพื่อเสริมสร้างความรู้ด้านไวยากรณ์ภาษาอังกฤษของคุณ! I. If Clause Type 3 คืออะไร? ประโยคเงื่อนไขประเภท 3 เป็นประเภทของประโยคที่ใช้เมื่อผู้พูดจินตนาการถึงผลลัพธ์ของเหตุการณ์/สถานการณ์/การกระทำที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงในอดีต ตัวอย่าง: If...
Past Perfect Continuous

เรียนรู้รายละเอียด Past Perfect Continuous Tense ในภาษาอังกฤษ

0
คุณกำลังพบปัญหาในการใช้ Past Perfect Continuous ในภาษาอังกฤษหรือไม่? บทความนี้จะให้ข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดเกี่ยวกับรูปแบบนี้ ตั้งแต่คำนิยาม โครงสร้าง วิธีการใช้ สัญญาณในการตรวจสอบ ไปจนถึงตัวอย่างและแบบฝึกหัดที่ใช้งานได้ มาค้นพบกันเลยเพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของคุณ! I. Past Perfect Continuous คืออะไร? Past Perfect Continuous เป็นรูปเวลาหนึ่งในภาษาอังกฤษที่ใช้แสดงถึงการกระทำที่เริ่มต้นในอดีต ดำเนินต่อเนื่องไปสักระยะหนึ่งและสิ้นสุดลงในช่วงเวลาหนึ่งในอดีต ตัวอย่างการใช้ Past Perfect Continuous: I...
If Clause Type 2

If Clause Type 2 – โครงสร้าง, การใช้งาน, แบบฝึกหัดพร้อมคำตอบ

0
คุณกำลังพบปัญหาในการใช้ "If Clause Type 2" (ประโยคเงื่อนไขประเภท 2) ในภาษาอังกฤษหรือไม่? บทความนี้จะให้ความรู้เกี่ยวกับโครงสร้าง, การใช้งาน, การแปรผัน และแบบฝึกหัดที่เกี่ยวข้องกับประเภทประโยคเงื่อนไขนี้แก่คุณ มาค้นพบกันเลยเพื่อเพิ่มพูนทักษะภาษาอังกฤษของคุณ! I. If Clause Type 2 คืออะไร? "If Clause Type 2" หรือที่รู้จักกันว่า "ประโยคเงื่อนไขประเภท 2"...

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

โพสต์ใหม่

วันหยุดภาษาอังกฤษ: คู่มือครบถ้วนสำหรับผู้เรียนภาษาอังกฤษ

Vocabulary
Read more