คุณกำลังศึกษาเกี่ยวกับประโยคความซ้อนในภาษาอังกฤษหรือไม่? บทความนี้จะมอบความรู้ที่ครบถ้วนเกี่ยวกับโครงสร้าง, วิธีการใช้, และประเภทของ Complex Sentence ที่พบบ่อย. การเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับประโยคความซ้อนจะช่วยให้คุณสามารถแสดงออกภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วและเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น.
I. ประโยคความซ้อนในภาษาอังกฤษคืออะไร?
ประโยคความซ้อนในภาษาอังกฤษ (Complex sentence) เป็นรูปแบบของประโยคที่มีมาตราอิสระหนึ่งหรือมากกว่า และมาตราที่ขึ้นตรงอย่างน้อยหนึ่งมาตรา. ซึ่งมาตราเหล่านี้ถูกรวมกันด้วยคำสันธานหรือมาตราข้อจำกัด. ในนั้น:
- มาตราอิสระคือมาตราที่สามารถยืนอยู่คนเดียวเป็นประโยคได้.
- มาตราที่ขึ้นตรงไม่สามารถยืนอยู่คนเดียวเป็นประโยคได้.
ตัวอย่าง:
- If you study hard, you will pass the exam. (ถ้าคุณเรียนหนัก, คุณจะผ่านการสอบได้.) ➡ มาตราที่ขึ้นตรงคือ If you study hard, มาตราอิสระคือ you will pass the exam.
- Even though he was tired, he went to the gym. (แม้ว่าเขาจะเหนื่อย, เขาก็ไปยิม.) ➡ มาตราที่ขึ้นตรงคือ Even though he was tired, มาตราอิสระคือ he went to the gym.
II. ประเภทของประโยคความซ้อนในภาษาอังกฤษ
มีหลายประเภทของประโยคความซ้อนที่พบบ่อยในภาษาอังกฤษ มาดูกันเลย:
1. ประโยคความซ้อนที่ใช้คำสันธานอธิบาย
1.1 ความสัมพันธ์แห่งสาเหตุและผล
Complex Sentence ในภาษาอังกฤษที่แสดงความสัมพันธ์แห่งสาเหตุและผลมีโครงสร้างดังนี้:
As/since/because + มาตรา, มาตรา.
หรือ
มาตรา + because of/due to + นาม/กริยานาม.
ตัวอย่าง:
- As social networks are developed, we can connect with each other more easily. (เนื่องจากเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้รับการพัฒนา ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อกับกันและกันได้ง่ายขึ้น)
- A lot of animals have died because of forest fires. (สัตว์จำนวนมากตายเพราะไฟป่า)
1.2 ความสัมพันธ์แห่งการยอมรับ
ประโยคความซ้อนในภาษาอังกฤษที่แสดงความสัมพันธ์แห่งการยอมรับมีโครงสร้างดังนี้:
Although/Though/Even though + มาตรา, มาตรา.
ตัวอย่าง:
- Even though today is my day off, I’m still working. (แม้วันนี้จะเป็นวันหยุดของฉัน แต่ฉันยังคงทำงานอยู่)
- I still love him although he treats me badly. (ฉันยังรักเขาอยู่ แม้ว่าเขาจะปฏิบัติกับฉันไม่ดี)
1.3 ความสัมพันธ์แห่งการเปรียบเทียบ
ประโยคความซ้อนในภาษาอังกฤษที่แสดงความสัมพันธ์แห่งการเปรียบเทียบมีโครงสร้างดังนี้:
While + มาตรา, มาตรา.
ตัวอย่าง:
- While my mother prefers to live in the countryside, my father prefers the city. (ในขณะที่แม่ของฉันชอบอยู่ในชนบท แต่พ่อของฉันชอบอยู่ในเมืองมากกว่า)
- He fell asleep while everyone was working hard. (เขาหลับไปในขณะที่ทุกคนกำลังทำงานอย่างหนัก)
- Whereas I like staying at home, my boyfriend likes to go out. (ในขณะที่ฉันชอบอยู่บ้าน แฟนของฉันชอบออกไปข้างนอก)
1.4. การแสดงวัตถุประสงค์
Complex Sentence ในภาษาอังกฤษใช้แสดงวัตถุประสงค์โดยใช้คำเชื่อมที่ขึ้นต้นด้วย:
ประธาน + in order that/so that + ประธาน (ใช้กริยาช่วย).
ตัวอย่างประโยคความซ้อนในภาษาอังกฤษที่แสดงวัตถุประสงค์:
- I always turn off the lights before bed so that I can sleep more comfortably. (ฉันปิดไฟก่อนนอนเพื่อที่จะได้หลับสบายมากขึ้น)
- She wakes up early in order that she can catch the bus. (เธอตื่นเช้าเพื่อที่จะได้ทันรถประจำทาง)
1.5. การแสดงเวลา
ประโยคความซ้อนในภาษาอังกฤษใช้แสดงเวลาโดยใช้คำเชื่อมที่ขึ้นต้นด้วย:
คำกริยาวิเศษณ์เกี่ยวกับเวลา + ประธาน, ประธาน.
หรือ
ประธาน + คำกริยาวิเศษณ์เกี่ยวกับเวลา + ประธาน.
คำกริยาวิเศษณ์เกี่ยวกับเวลาที่พบบ่อย ได้แก่: before (ก่อน), after (หลังจาก), since (ตั้งแต่), until (จนกระทั่ง)… ตัวอย่างประโยคความซ้อนในภาษาอังกฤษที่แสดงเวลา:
- After I graduate from university, I will go back to my hometown to work. (หลังจากฉันจบจากมหาวิทยาลัย, ฉันจะกลับไปทำงานที่บ้านเกิด)
- You should turn off the lights before you leave your room. (คุณควรปิดไฟก่อนที่คุณจะออกจากห้อง)
1.6. การแสดงสมมติฐาน
ในกรณีที่ประโยคความซ้อนในภาษาอังกฤษใช้เพื่อแสดงสมมติฐาน, มีโครงสร้างดังนี้:
If/As long as/Unless/In case + ประธาน, ประธาน.
หรือ
ประธาน + if/as long as/unless/in case + ประธาน.
ตัวอย่างประโยคความซ้อนในภาษาอังกฤษที่แสดงสมมติฐาน:
- If you want to achieve good results on the test, you should study diligently. (หากคุณต้องการผลลัพธ์ที่ดีในการสอบ, คุณควรจะเรียนอย่างขยันขันแข็ง)
- You should check your mailbox regularly in case there is significant news. (คุณควรตรวจสอบกล่องจดหมายของคุณอย่างสม่ำเสมอเผื่อว่ามีข่าวสำคัญ)
2. ประโยคความซ้อนที่ใช้ข้อกำหนดความสัมพันธ์
คำสัมพันธ์ | โครงสร้าง | การใช้งาน | ตัวอย่าง |
Who | คำนำหน้าบุคคล + who + V/O
หรือ คำนำหน้าบุคคล + who + ประโยค |
ขยายความคำนามที่เป็นบุคคล, ทำหน้าที่เป็นประธานหรือกรรมในประโยค |
|
Which | คำนำหน้าสิ่งของ/เหตุการณ์ + which + V O
หรือ คำนำหน้าสิ่งของ/เหตุการณ์ + which + ประโยค |
ขยายความคำนามที่เป็นสิ่งของหรือเหตุการณ์, ทำหน้าที่เป็นประธานหรือกรรมในประโยค |
|
Whose | คำนำหน้า + whose + คำนาม + V O
หรือ คำนำหน้า + whose + คำนาม + ประโยค |
ขยายความคำนามที่มีความหมายเกี่ยวกับความเป็นเจ้าของ |
|
ประโยคความซ้อนที่ใช้คำสัมพันธ์เกี่ยวกับวิธีการ
คำสัมพันธ์ | โครงสร้าง | การใช้งาน | ตัวอย่าง |
When | ประโยค + when + ประโยค | ขยายความคำนามที่เกี่ยวกับเวลา |
|
Where | ประโยค + where + ประโยค | ขยายความคำนามที่เกี่ยวกับสถานที่ |
|
III. วิธีการสร้างประโยคความซ้อนอย่างสมบูรณ์
เพื่อสร้างประโยคความซ้อนในภาษาอังกฤษให้สมบูรณ์, คุณควรปฏิบัติตามสูตรที่กำหนดไว้ในส่วนที่ II และต้องระวังการใช้จุลภาคในประโยค ถ้าประโยคอิสระอยู่ด้านหน้าจะไม่ต้องใช้จุลภาค แต่ถ้าประโยคอิสระอยู่หลังจะต้องใช้จุลภาค ตัวอย่างการสร้างประโยคความซ้อนในภาษาอังกฤษ:
- Because she needed to study, Jane went to the library early. (เนื่องจากเธอต้องอ่านหนังสือ เจนจึงไปห้องสมุดแต่เช้า) ➡ ในประโยคนี้, ประโยคอิสระอยู่ด้านหลังจึงใช้จุลภาค.
- Tom missed the bus because he woke up late. (ทอมพลาดรถเมล์เพราะเขาตื่นสาย) ➡ ในประโยคนี้, ประโยคอิสระอยู่ด้านหน้าจึงไม่ต้องใช้จุลภาค.
IV. การแยกแยะระหว่างประโยคความซ้อน, ประโยคเดี่ยว และประโยคผสมในภาษาอังกฤษ
เราสามารถแยกประโยคความซ้อนออกจากประโยคเดี่ยวและประโยคผสมได้โดยอิงตามแนวคิดและโครงสร้างดังนี้:
ประเภทของประโยค | ประโยคความซ้อน | ประโยคเดี่ยว | ประโยคผสม |
วิธีการแยกแยะ | ประโยคที่มีหนึ่งประโยคอิสระและหนึ่งหรือมากกว่าประโยครอง | ประโยคที่มีเพียงหนึ่งประโยคอิสระ | ประโยคที่มีสองประโยคอิสระขึ้นไป โดยไม่มีประโยครอง |
ตัวอย่าง | After he passed his exam, his parents took him to dinner. (หลังจากเขาสอบผ่าน, พ่อแม่พาเขาไปทานอาหารเย็น) | Lisa travels to Paris every summer. (ลิซ่าเดินทางไปปารีสทุกๆ ฤดูร้อน) | I play tennis, and my sister plays basketball. (ฉันเล่นเทนนิส และน้องสาวฉันเล่นบาสเกตบอล) |
V. แบบฝึกหัดประโยคภาษาอังกฤษที่ซับซ้อนพร้อมคำตอบ
แบบฝึกหัดที่ 1. เติมประโยคต่อไปนี้ให้สมบูรณ์โดยใช้คำสันธานที่เหมาะสม:
- I couldn’t go to the party ________ it was raining heavily.
- She is always willing to help others ________ she is busy herself.
- ________ I studied hard for the exam, I still didn’t get a good grade.
- The children were excited ________ they were going to the zoo.
- ________ you don’t finish your homework, you can’t go out to play.
บทที่ 2 เขียนประโยคที่ซับซ้อนโดยใช้relative clauses:
- The man ________ car was parked in front of my house is my neighbor.
- The book ________ I am reading is about Vietnamese history.
- The girl ________ won the first prize is very talented.
- The city ________ I was born is a beautiful coastal town.
- The restaurant ________ we had dinner last night served delicious food.
บทที่ 3 แก้ไขข้อผิดพลาดในประโยคต่อไปนี้:
- Although she was tired, but she continued to work.
- If I had known the answer, I would have told you.
- Because of the bad weather, the flight was canceled.
- In order to get good grades, I studied hard.
- The student who got the highest score is from Hanoi.
คำตอบ:
บทที่ 1.
- because
- even though
- Although
- because
- Unless
บทที่ 2
- whose
- which
- who
- where
- which
บทที่ 3
- Although she was tired, she still continued to work.
- If I had known the answer, I would have told it to you.
- Because of the bad weather, the flight was cancelled.
- Correct.
- Correct.
การอธิบาย:
- ประโยคที่ 1: โครงสร้าง “but” มักใช้เพื่อเชื่อมสองประโยคอิสระ, ในขณะที่ “although” ใช้เชื่อมสองประโยครองหรือประโยครองกับประโยคหลัก.
- ประโยคที่ 2: “It” เป็นสรรพนามที่ใช้แทนคำนาม “answer”, ต้องวางหลังกริยา “would have told”.
- ประโยคที่ 3: “Because of” เป็นวลีเชื่อม, ไม่จำเป็นต้องใช้ “of” ตามหลัง “because”.
- ประโยคที่ 4: ประโยคนี้ใช้ “in order to” อย่างถูกต้องเพื่อแสดงวัตถุประสงค์.
- ประโยคที่ 5: ประโยคนี้ใช้สรรพนามสัมพันธ์ “who” อย่างถูกต้องเพื่อแทนคำนาม “student”.
บทความนี้ได้มอบความรู้เกี่ยวกับโครงสร้าง, การใช้งาน และประโยคความซ้อนที่พบบ่อยในภาษาอังกฤษให้กับคุณ, พร้อมทั้งแนะนำวิธีการสร้างประโยคความซ้อนอย่างสมบูรณ์ ควรฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอเพื่อพัฒนาความสามารถในการใช้ประโยคความซ้อนในภาษาอังกฤษ.