คำตรงข้าม ภาษาอังกฤษ: เรียนรู้และฝึกฝนเพื่อความเก่ง

การเรียนรู้คําตรงข้าม ภาษาอังกฤษ เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาทักษะการสื่อสารของคุณ บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับคําตรงข้าม วิธีการสร้างและจำแนกประเภท พร้อมกับเทคนิคการฝึกจำและแบบฝึกหัดที่ช่วยให้คุณเก่งขึ้นในทุกวัน

I. Antonym Words คืออะไร

คำตรงข้าม ภาษาอังกฤษ หรือ Antonym Words หมายถึงคำที่มีความหมายตรงกันข้ามกัน ตัวอย่างเช่น “hot” และ “cold” ซึ่งเป็นคำตรงข้ามที่ชัดเจน การรู้และเข้าใจคำตรงข้ามช่วยให้การสื่อสารของคุณมีความชัดเจนและหลากหลายมากยิ่งขึ้น

Antonym Words คืออะไร

II. วิธีการสร้างคำคู่ตรงข้ามในภาษาอังกฤษ

การสร้างคำคู่ตรงข้ามในภาษาอังกฤษเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มพูนพจนานุกรมและเสริมสร้างทักษะการสื่อสารของคุณ วิธีที่ง่ายที่สุดในการสร้างคำคู่ตรงข้ามคือการเติมคำนำหน้า (prefix) ไว้หน้าคำศัพท์ ซึ่งคำนำหน้าเหล่านี้จะเปลี่ยนความหมายของคำต้นให้เป็นตรงข้าม ในส่วนนี้ เราจะมาพูดถึงคำนำหน้าที่ใช้บ่อยที่สุดในการสร้างคำคู่ตรงข้าม พร้อมตัวอย่างที่ชัดเจนเพื่อให้คุณเข้าใจและสามารถนำไปใช้ได้จริง

คำนำหน้า “dis-”

คำนำหน้านี้มักใช้กับคำกริยาและคำนาม เพื่อแสดงถึงการขาดหรือการลบล้างความหมาย ตัวอย่างเช่น:

  • Agree ➡ Disagree (เห็นด้วย ➡ ไม่เห็นด้วย)
  • Appear ➡ Disappear (ปรากฏ ➡ หายไป)
  • Connect ➡ Disconnect (เชื่อมต่อ ➡ แยกออก)

การเติม “dis-” สามารถเปลี่ยนความหมายของคำให้เป็นตรงข้ามได้อย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา

คำนำหน้า “in-”

คำนำหน้านี้ใช้กับคำคุณศัพท์และบางครั้งกับคำนาม เพื่อแสดงความไม่หรือการขาด ตัวอย่างเช่น:

  • Discreet ➡ Indiscreet (รอบคอบ ➡ ไม่รอบคอบ)
  • Decent ➡ Indecent (เหมาะสม ➡ ไม่เหมาะสม)
  • Visible ➡ Invisible (มองเห็นได้ ➡ มองไม่เห็น)

“in-” เป็นคำนำหน้าที่สามารถนำมาใช้กับคำหลายประเภท ทำให้มีความยืดหยุ่นในการสร้างคำคู่ตรงข้าม

คำนำหน้า “mis-”

คำนำหน้านี้ใช้กับคำกริยาเพื่อแสดงถึงการกระทำผิดหรือไม่ถูกต้อง ตัวอย่างเช่น:

  • Behave ➡ Misbehave (ประพฤติดี ➡ ประพฤติไม่ดี)
  • Trust ➡ Mistrust (ไว้วางใจ ➡ ไม่ไว้วางใจ)
  • Understand ➡ Misunderstand (เข้าใจ ➡ เข้าใจผิด)

การเติม “mis-” ช่วยเน้นย้ำถึงการกระทำที่ผิดพลาดหรือไม่เป็นไปตามที่ควรจะเป็น

คำนำหน้า “un-”

คำนำหน้านี้เป็นหนึ่งในคำนำหน้าที่ใช้บ่อยที่สุดในภาษาอังกฤษ ใช้กับคำคุณศัพท์และคำกริยา เพื่อแสดงถึงความไม่หรือการกลับกัน ตัวอย่างเช่น:

  • Fortunate ➡ Unfortunate (โชคดี ➡ โชคร้าย)
  • Forgiving ➡ Unforgiving (ให้อภัย ➡ ไม่ให้อภัย)
  • Known ➡ Unknown (เป็นที่รู้จัก ➡ ไม่เป็นที่รู้จัก)

“un-” มีความยืดหยุ่นสูงและสามารถนำมาใช้กับคำหลายประเภท ทำให้เป็นคำนำหน้าที่มีประโยชน์ในการสร้างคำคู่ตรงข้าม

คำนำหน้า “non-”

คำนำหน้านี้ใช้กับคำนามและบางครั้งกับคำคุณศัพท์ เพื่อแสดงถึงการไม่มีหรือการไม่เป็น ตัวอย่างเช่น:

  • Sense ➡ Nonsense (ความรู้สึก/เหตุผล ➡ ไร้สาระ)
  • Entity ➡ Nonentity (เอนทิตี/หน่วยงาน ➡ ไม่มีความสำคัญ)
  • Profit ➡ Nonprofit (กำไร ➡ ไม่มีผลกำไร)

“non-” เป็นคำนำหน้าที่ใช้บ่อยในบริบทที่ต้องการแสดงถึงการไม่มีหรือไม่เป็นของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

III. การจำแนกประเภทของคำคู่ตรงข้าม

การจำแนกประเภทของคำคู่ตรงข้าม

การเข้าใจประเภทต่าง ๆ ของคำคู่ตรงข้ามในภาษาอังกฤษเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถใช้คำเหล่านี้ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมในบริบทต่าง ๆ ในส่วนนี้ เราจะมาศึกษาการจำแนกประเภทของคำคู่ตรงข้ามในภาษาอังกฤษ ซึ่งแบ่งออกเป็นสามกลุ่มหลัก ได้แก่ คู่คำตรงข้ามที่ไม่มีโครงสร้างร่วมกัน คู่คำตรงข้ามที่ไม่มีอะไรเหมือนกันในโครงสร้าง และคู่คำตรงข้ามที่แสดงความเปรียบเทียบ

1. คู่คำตรงข้ามที่ไม่มีโครงสร้างร่วมกัน (Complementary Antonyms)

คู่คำตรงข้ามประเภทนี้คือคำที่มีความหมายตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง และไม่สามารถมีค่าระหว่างกลางได้ กล่าวคือ คำหนึ่งจะต้องมีค่าเป็นจริงหรือเท็จเสมอ ตัวอย่างของคู่คำตรงข้ามประเภทนี้ ได้แก่:

  • Big – Small (ใหญ่ – เล็ก): ไม่สามารถมีขนาดที่กลางระหว่างใหญ่และเล็กได้
  • Off – On (ปิด – เปิด): อุปกรณ์หรือเครื่องใช้จะต้องอยู่ในสถานะเปิดหรือปิดเท่านั้น
  • Night – Day (กลางคืน – กลางวัน): เวลาจะต้องเป็นกลางคืนหรือกลางวัน ไม่สามารถเป็นทั้งสองอย่างได้ในเวลาเดียวกัน
  • Push – Pull (ผลัก – ดึง): การเคลื่อนไหวแบบผลักและดึงเป็นการกระทำที่ตรงข้ามกันอย่างชัดเจน

คู่คำตรงข้ามประเภทนี้ช่วยให้การสื่อสารมีความชัดเจนและไม่เกิดความสับสนในความหมายของคำที่ใช้

2. คู่คำตรงข้ามที่ไม่มีอะไรเหมือนกันในโครงสร้าง (Relational Antonyms)

คู่คำตรงข้ามประเภทนี้เป็นคำที่มีความสัมพันธ์กันในแง่ของหน้าที่หรือบทบาทในบริบทหนึ่ง ๆ โดยคำหนึ่งจะเป็นบรรทัดฐานของอีกคำหนึ่ง ตัวอย่างของคู่คำตรงข้ามประเภทนี้ ได้แก่:

  • Above – Below (เหนือ – ใต้): ใช้อธิบายตำแหน่งในพื้นที่ทางกายภาพ
  • Doctor – Patient (หมอ – คนไข้): แสดงถึงบทบาทในการให้บริการทางการแพทย์
  • Husband – Wife (สามี – ภรรยา): ใช้ในบริบทของความสัมพันธ์ทางครอบครัว
  • Give – Receive (ให้ – รับ): แสดงถึงการกระทำที่เกิดขึ้นระหว่างบุคคลสองฝ่าย

การเข้าใจคู่คำตรงข้ามประเภทนี้ช่วยให้สามารถอธิบายความสัมพันธ์และบทบาทต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้องและชัดเจน

3. คู่คำตรงข้ามที่แสดงความเปรียบเทียบ (Graded Antonyms)

คู่คำตรงข้ามประเภทนี้เป็นคำที่มีความหมายที่สามารถวัดระดับหรือความเข้มข้นได้ ซึ่งสามารถมีค่าอยู่ระหว่างกลาง ตัวอย่างของคู่คำตรงข้ามประเภทนี้ ได้แก่:

  • Hard – Easy (ยาก – ง่าย): ใช้อธิบายความยากหรือง่ายของงานหรือสถานการณ์
  • Happy – Wistful (สุข – เศร้า): แสดงถึงอารมณ์ที่มีระดับความแตกต่างกัน
  • Fat – Slim (อ้วน – ผอม): ใช้อธิบายลักษณะทางกายภาพที่มีความหลากหลายในระดับ
  • Warm – Cool (อุ่น – เย็น): ใช้อธิบายอุณหภูมิที่สามารถมีระดับได้

คู่คำตรงข้ามประเภทนี้ช่วยให้สามารถแสดงความเปลี่ยนแปลงหรือความแตกต่างในระดับต่าง ๆ ของคุณลักษณะหรือสถานการณ์ได้อย่างละเอียดและหลากหลาย

IV. Antonym Words ที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน

การรู้จักและใช้คำคู่ตรงข้ามในชีวิตประจำวันเป็นทักษะที่สำคัญในการสื่อสารภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพ ด้านล่างนี้คือ 100 คู่คำตรงข้ามที่ใช้บ่อย พร้อมความหมายและตัวอย่างประโยคที่ไม่ซ้ำกับเนื้อหาที่มีอยู่บนอินเทอร์เน็ต

คำคู่ตรงข้าม (Antonym Pairs) ความหมาย (Meaning) ตัวอย่างประโยค (Example)
Accept – Reject ยอมรับ – ปฏิเสธ She decided to accept the job offer. (เธอตัดสินใจยอมรับข้อเสนอทำงาน)

He chose to reject the proposal. (เขาเลือกที่จะปฏิเสธข้อเสนอ)

Active – Passive กระฉับกระเฉง – ขี้เกียจ He leads an active lifestyle. (เขามีวิถีชีวิตที่กระฉับกระเฉง)

She remained passive during the discussion. (เธอยังคงขี้เกียจในระหว่างการสนทนา)

Advance – Retreat ล่วงหน้า – ถอยกลับ The troops had to advance despite the weather. (กองทหารต้องล่วงหน้าท่ามกลางสภาพอากาศ)

The soldiers had to retreat after the attack. (ทหารต้องถอยกลับหลังการโจมตี)

Agree – Disagree เห็นด้วย – ไม่เห็นด้วย They agree on the new policy. (พวกเขาเห็นด้วยกับนโยบายใหม่)

Some team members disagree with the decision. (สมาชิกบางคนในทีมไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจ)

Alive – Dead มีชีวิต – ตาย The plant is still alive. (ต้นไม้นี้ยังมีชีวิตอยู่)

Unfortunately, the fish is dead. (น่าเสียดายที่ปลาตายแล้ว)

Always – Never เสมอ – ไม่เคย She always wakes up early. (เธอตื่นนอนแต่เช้าเสมอ)

He never misses a meeting. (เขาไม่เคยพลาดการประชุม)

Ancient – Modern เก่าแก่ – ทันสมัย They visited an ancient temple. (พวกเขาไปเยี่ยมชมวัดเก่าแก่)

The city skyline is filled with modern skyscrapers. (เส้นขอบฟ้าของเมืองเต็มไปด้วยตึกสูงทันสมัย)

Arrive – Depart มาถึง – ออกเดินทาง The train will arrive at 6 PM. (รถไฟจะมาถึงเวลา 18:00 น.)

Their flight will depart tomorrow morning. (เที่ยวบินของพวกเขาจะออกเดินทางในเช้าวันพรุ่งนี้)

Ascend – Descend ไต่ขึ้น – ลง The airplane began to ascend. (เครื่องบินเริ่มไต่ขึ้น)

The hiker started to descend the mountain. (นักเดินป่าเริ่มลงเขา)

Beautiful – Ugly สวยงาม – น่าเกลียด She wore a beautiful dress. (เธอสวมชุดที่สวยงาม)

The old building looks ugly after years of neglect. (อาคารเก่าดูน่าเกลียดหลังจากถูกละเลยมาหลายปี)

Begin – End เริ่ม – จบ The meeting will begin at 10 AM. (การประชุมจะเริ่มเวลา 10:00 น.)

The concert will end at midnight. (คอนเสิร์ตจะจบเวลาเที่ยงคืน)

Better – Worse ดีขึ้น – แย่ลง His condition is getting better. (สภาพของเขากำลังดีขึ้น)

The weather is getting worse each day. (สภาพอากาศแย่ลงทุกวัน)

Big – Small ใหญ่ – เล็ก They live in a big house. (พวกเขาอาศัยอยู่ในบ้านใหญ่)

She has a small car that’s easy to park. (เธอมีรถเล็กที่จอดง่าย)

Bitter – Sweet ขม – หวาน The medicine tastes bitter. (ยามีรสขม)

The dessert is sweet and delicious. (ของหวานหวานและอร่อย)

Black – White ดำ – ขาว She prefers black shoes. (เธอชอบรองเท้าสีดำ)

The walls are painted white. (ผนังถูกทาสีขาว)

Bless – Curse อวยพร – สาปแช่ง They bless their children every morning. (พวกเขาอวยพรลูก ๆ ทุกเช้า)

The storm cursed their plans. (พายุสาปแช่งแผนการของพวกเขา)

Borrow – Lend ยืม – ให้ยืม Can I borrow your pen? (ขอยืมปากกาของคุณได้ไหม?)

She decided to lend her book to a friend. (เธอตัดสินใจให้ยืมหนังสือของเธอให้เพื่อน)

Brave – Cowardly กล้าหาญ – ขี้ขลาด The firefighter was very brave. (นักดับเพลิงกล้าหาญมาก)

The cowardly cat hid under the bed. (แมวขี้ขลาดซ่อนอยู่ใต้เตียง)

Bright – Dim สว่าง – มืด The room is bright with sunlight. (ห้องสว่างด้วยแสงแดด)

The light is too dim to read by. (แสงมืดเกินไปที่จะอ่านหนังสือได้)

Build – Destroy สร้าง – ทำลาย They plan to build a new bridge. (พวกเขาวางแผนที่จะสร้างสะพานใหม่)

The demolition team will destroy the old building. (ทีมรื้อถอนจะทำลายอาคารเก่า)

Calm – Agitated เงียบสงบ – คึกคัก She remained calm during the storm. (เธอเงียบสงบในช่วงพายุ)

He felt agitated after the long meeting. (เขารู้สึกคึกคักหลังการประชุมยาว)

Cheap – Expensive ถูก – แพง This watch is too cheap. (นาฬิกานี้ถูกเกินไป)

That handbag is very expensive. (กระเป๋านั้นแพงมาก)

Child – Adult เด็ก – ผู้ใหญ่ The park is safe for children. (สวนสนุกปลอดภัยสำหรับเด็ก ๆ)

Adults are required to show ID. (ผู้ใหญ่จำเป็นต้องแสดงบัตรประชาชน)

Clean – Dirty สะอาด – สกปรก Please keep your room clean. (กรุณารักษาห้องของคุณให้สะอาด)

The kitchen was dirty after cooking. (ห้องครัวสกปรกหลังการทำอาหาร)

Close – Open ปิด – เปิด Please close the door. (กรุณาปิดประตู)

They decided to open a new store downtown. (พวกเขาตัดสินใจเปิดร้านใหม่ในใจกลางเมือง)

Cold – Hot หนาว – ร้อน It’s cold outside today. (วันนี้อากาศหนาวนอกบ้าน)

She prefers hot tea over cold drinks. (เธอชอบชาร้อนมากกว่าผลิตภัณฑ์เย็น)

Comfortable – Uncomfortable สะดวกสบาย – ไม่สะดวกสบาย This chair is very comfortable. (เก้าอี้นี้สะดวกสบายมาก)

The shoes are uncomfortable to wear all day. (รองเท้าไม่สะดวกสบายในการใส่ตลอดวัน)

Common – Rare ทั่วไป – หายาก It’s common to see birds here. (เห็นนกทั่วไปที่นี่)

Rare gemstones are valuable. (อัญมณีหายากมีค่ามาก)

Complex – Simple ซับซ้อน – เรียบง่าย The problem is more complex than we thought. (ปัญหานี้ซับซ้อนกว่าที่เราคิด)

The instructions are simple to follow. (คำแนะนำง่ายต่อการติดตาม)

Connect – Disconnect เชื่อมต่อ – ตัดการเชื่อมต่อ Please connect the cables properly. (กรุณาเชื่อมต่อสายให้ถูกต้อง)

He had to disconnect his phone from the charger. (เขาต้องตัดการเชื่อมต่อโทรศัพท์จากที่ชาร์จ)

Continuous – Intermittent ต่อเนื่อง – เป็นครั้งคราว The rain was continuous all day. (ฝนตกต่อเนื่องทั้งวัน)

The signal was intermittent during the storm. (สัญญาณเป็นครั้งคราวในช่วงพายุ)

Cool – Warm เย็น – อุ่น She likes her drinks cool. (เธอชอบเครื่องดื่มที่เย็น)

The blanket kept her warm during the night. (ผ้าห่มทำให้เธออุ่นในตอนกลางคืน)

Correct – Incorrect ถูกต้อง – ผิดพลาด Your answer is correct. (คำตอบของคุณถูกต้อง)

The information provided was incorrect. (ข้อมูลที่ให้มาผิดพลาด)

Courageous – Timid กล้าหาญ – ขี้ขลาด The lion is a courageous animal. (สิงโตเป็นสัตว์ที่กล้าหาญ)

The timid mouse hid from the cat. (หนูขี้ขลาดซ่อนจากแมว)

Create – Destroy สร้าง – ทำลาย Artists create beautiful works. (ศิลปินสร้างงานที่สวยงาม)

The hurricane will destroy the coastal town. (พายุเฮอริเคนจะทำลายเมืองชายฝั่ง)

Dark – Light มืด – สว่าง The room is dark without the lights on. (ห้องมืดถ้าไม่เปิดไฟ)

The light from the window brightened the room. (แสงจากหน้าต่างทำให้ห้องสว่างขึ้น)

Day – Night กลางวัน – กลางคืน They work during the day and rest at night. (พวกเขาทำงานในเวลากลางวันและพักผ่อนตอนกลางคืน)

The city looks different at night. (เมืองดูแตกต่างในตอนกลางคืน)

Deep – Shallow ลึก – ตื้น The lake is very deep. (ทะเลสาบนี้ลึกมาก)

The water is shallow near the shore. (น้ำตื้นใกล้ฝั่ง)

Defend – Attack ป้องกัน – โจมตี The army will defend the country. (กองทัพจะป้องกันประเทศ)

The soldiers were ordered to attack at dawn. (ทหารได้รับคำสั่งให้โจมตีเมื่อรุ่งอรุณ)

Delicious – Disgusting อร่อย – น่าเกลียด This cake is delicious. (เค้กนี้อร่อยมาก)

The spoiled food tasted disgusting. (อาหารที่เน่าเสียมีรสชาติที่น่าเกลียด)

Despair – Hope สิ้นหวัง – มีความหวัง She held onto hope despite the challenges. (เธอยึดมั่นในความหวังท่ามกลางอุปสรรค)

In times of despair, it’s important to stay hopeful. (ในช่วงเวลาที่สิ้นหวัง มันสำคัญที่จะยังคงมีความหวัง)

Different – Same แตกต่าง – เหมือนกัน Their opinions are different. (ความคิดเห็นของพวกเขาแตกต่างกัน)

Despite being siblings, they have the same sense of humor. (แม้ว่าจะเป็นพี่น้อง พวกเขาก็มีอารมณ์ขันเหมือนกัน)

Difficult – Easy ยาก – ง่าย This puzzle is difficult to solve. (ปริศนานี้ยากที่จะแก้)

The exam was surprisingly easy. (การสอบนั้นง่ายเกินคาด)

Diligent – Lazy ขยัน – ขี้เกียจ She is very diligent in her studies. (เธอขยันมากในการเรียน)

The lazy cat slept all day. (แมวขี้เกียจนอนตลอดทั้งวัน)

Direct – Indirect ตรงไปตรงมา – อ้อมค้อม He gave a direct answer. (เขาตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมา)

She took an indirect route to avoid traffic. (เธอเลือกเส้นทางอ้อมเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจร)

Dry – Wet แห้ง – เปียก The clothes are dry now. (เสื้อผ้าแห้งแล้วตอนนี้)

After the rain, the ground was wet. (หลังฝนตก พื้นดินเปียก)

Early – Late เช้า – ช้า She arrived early for the meeting. (เธอมาถึงประชุมแต่เช้า)

He was late to the appointment. (เขามาสายสำหรับนัดหมาย)

Easy – Hard ง่าย – ยาก Learning a new language can be easy with practice. (การเรียนรู้ภาษาใหม่อาจจะง่ายถ้ามีการฝึกฝน)

The marathon is hard but rewarding. (การแข่งขันมาราธอนยากแต่ให้รางวัลที่ดี)

Empty – Full ว่างเปล่า – เต็ม The glass is empty. (แก้วว่างเปล่า)

The stadium was full of cheering fans. (สนามกีฬามีแฟนๆ ร้องเชียร์เต็มที่)

End – Begin จบ – เริ่ม The concert will end at midnight. (คอนเสิร์ตจะจบเวลาเที่ยงคืน)

Let’s begin the project today. (เรามาเริ่มโปรเจกต์กันวันนี้กันเถอะ)

Enter – Exit เข้าสู่ – ออกจาก Please enter your password. (กรุณาใส่รหัสผ่านของคุณ)

You can exit the building through the back door. (คุณสามารถออกจากอาคารผ่านประตูหลัง)

Even – Odd คู่ – คี่ Four is an even number. (สี่เป็นเลขคู่)

Seven is an odd number. (เจ็ดเป็นเลขคี่)

Excite – Bore ตื่นเต้น – น่าเบื่อ The movie was exciting. (หนังน่าตื่นเต้น)

The lecture was boring and lengthy. (การบรรยายน่าเบื่อและยาวนาน)

Expand – Contract ขยาย – หดตัว The company plans to expand its operations. (บริษัทวางแผนที่จะขยายการดำเนินงาน)

The muscle contracts during exercise. (กล้ามเนื้อหดตัวระหว่างการออกกำลังกาย)

Fail – Succeed ล้มเหลว – ประสบความสำเร็จ She worked hard to succeed. (เธอทำงานหนักเพื่อประสบความสำเร็จ)

Despite his efforts, he failed the test. (แม้จะพยายาม เขาก็ล้มเหลวในการสอบ)

False – True เท็จ – จริง His statement was false. (คำกล่าวของเขาเป็นเท็จ)

The witness gave a true account of the events. (พยานให้บัญชีจริงของเหตุการณ์)

Famous – Unknown มีชื่อเสียง – ไม่เป็นที่รู้จัก The actor is very famous. (นักแสดงคนนั้นมีชื่อเสียงมาก)

She remains unknown despite her talent. (เธอยังคงไม่เป็นที่รู้จักแม้จะมีพรสวรรค์)

Far – Near ไกล – ใกล้ Their house is far from the city. (บ้านของพวกเขาอยู่ไกลจากเมือง)

The school is near my home. (โรงเรียนใกล้บ้านฉัน)

Fast – Slow เร็ว – ช้า The car is very fast. (รถยนต์นี้เร็วมาก)

The old computer operates slowly. (คอมพิวเตอร์เก่าทำงานช้า)

Fat – Slim อ้วน – ผอม He is trying to lose fat. (เขาพยายามลดน้ำหนัก)

She maintains a slim figure through exercise. (เธอรักษารูปร่างผอมเพรียวผ่านการออกกำลังกาย)

Few – Many น้อย – มาก There are few apples left. (มีแอปเปิ้ลเหลือน้อย)

Many people attended the concert. (มีคนมากมายเข้าร่วมคอนเสิร์ต)

Final – Initial สุดท้าย – เริ่มต้น This is the final round of the competition. (นี่คือรอบสุดท้ายของการแข่งขัน)

We reviewed the initial plans before proceeding. (เราตรวจสอบแผนเริ่มต้นก่อนที่จะดำเนินการต่อ)

Find – Lose หาเจอ – สูญเสีย I hope to find my keys soon. (ฉันหวังว่าจะหาเจอกุญแจของฉันเร็ว ๆ นี้)

She didn’t want to lose her favorite book. (เธอไม่ต้องการสูญเสียหนังสือโปรดของเธอ)

Finish – Start จบ – เริ่ม Let’s finish the project today. (เรามาจบโปรเจกต์วันนี้กันเถอะ)

It’s time to start a new chapter in your life. (ถึงเวลาที่จะเริ่มต้นบทใหม่ในชีวิตของคุณ)

First – Last แรก – สุดท้าย She was the first to arrive. (เธอเป็นคนแรกมาถึง)

He was the last to leave the office. (เขาเป็นคนสุดท้ายที่ออกจากสำนักงาน)

Flat – Hilly ราบ – ภูเขา The landscape is mostly flat. (ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นราบ)

They enjoyed hiking in the hilly region. (พวกเขาชื่นชอบการเดินป่าในภูมิภาคที่มีภูเขา)

Flexible – Rigid ยืดหยุ่น – แข็งกระด้าง Her schedule is very flexible. (ตารางของเธอยืดหยุ่นมาก)

The rules are too rigid for creative projects. (กฎเกณฑ์นั้นแข็งกระด้างเกินไปสำหรับโปรเจกต์ที่สร้างสรรค์)

Forget – Remember ลืม – จำ Don’t forget to lock the door. (อย่าลืมล็อคประตู)

Please remember to call your mother. (กรุณาจำไว้ที่จะโทรหามารดาของคุณ)

Forgive – Blame ให้อภัย – โทษ It’s hard to forgive him. (มันยากที่จะให้อภัยเขา)

She tends to blame others for her mistakes. (เธอมักโทษผู้อื่นสำหรับความผิดพลาดของเธอ)

Free – Busy ว่าง – ไม่ว่าง I’m free this afternoon. (ฉันว่างตอนบ่ายนี้)

He is always busy with work. (เขามักจะไม่ว่างเพราะงาน)

Friend – Enemy เพื่อน – ศัตรู He considers her a true friend. (เขามองว่าเธอเป็นเพื่อนแท้)

In the story, the hero faces many enemies. (ในเรื่องราว ตัวเอกต้องเผชิญกับศัตรูหลายคน)

Full – Empty เต็ม – ว่างเปล่า The room was full of people. (ห้องเต็มไปด้วยคน)

The bottle is empty after the hike. (ขวดว่างหลังจากการเดินทาง)

Funny – Serious ตลก – จริงจัง He told a funny joke. (เขาบอกมุขตลก)

The meeting took a serious turn. (การประชุมกลายเป็นเรื่องจริงจัง)

Generous – Stingy ใจกว้าง – ขี้เหนียว She is very generous with her time. (เธอใจกว้างมากกับเวลาของเธอ)

He is too stingy to share his snacks. (เขาขี้เหนียวเกินไปที่จะแบ่งขนมของเขา)

Gentle – Harsh อ่อนโยน – โหดร้าย The teacher has a gentle demeanor. (คุณครูมีท่าทางอ่อนโยน)

The harsh criticism hurt his feelings. (คำวิจารณ์โหดร้ายทำร้ายความรู้สึกของเขา)

Give – Take ให้ – รับ She decided to give her old clothes away. (เธอตัดสินใจให้ยืมเสื้อผ้าเก่าของเธอไป)

He will take the package tomorrow. (เขาจะรับพัสดุพรุ่งนี้)

Good – Bad ดี – แย่ She did a good job on the assignment. (เธอทำงานนั้นได้ดี)

The weather is bad today. (อากาศวันนี้แย่มาก)

Gorgeous – Ugly สวยงาม – น่าเกลียด The sunset was absolutely gorgeous. (พระอาทิตย์ตกดินสวยงามอย่างยิ่ง)

The old car looks ugly next to the new models. (รถเก่าดูน่าเกลียดเมื่อเทียบกับรุ่นใหม่)

Graceful – Clumsy อ่อนโยน – ขี้อาย The dancer moved gracefully across the stage. (นักเต้นเคลื่อนไหวอย่างอ่อนโยนบนเวที)

His clumsy movements caused him to trip. (การเคลื่อนไหวขี้อายทำให้เขาหกล้ม)

Great – Terrible ยิ่งใหญ่ – น่าเกลียด The concert was great last night. (คอนเสิร์ตเมื่อคืนนี้ยอดเยี่ยมมาก)

The food at the new restaurant was terrible. (อาหารที่ร้านใหม่แย่มาก)

Grow – Shrink เติบโต – หดตัว Plants grow towards the sunlight. (พืชเติบโตไปทางแสงแดด)

The company’s profits began to shrink last quarter. (กำไรของบริษัทเริ่มหดตัวในไตรมาสที่แล้ว)

Happy – Sad สุข – เศร้า She felt happy after the celebration. (เธอรู้สึกสุขหลังจากการเฉลิมฉลอง)

He was sad to see his friend leave. (เขารู้สึกเศร้าเมื่อเห็นเพื่อนของเขาไป)

Hard – Soft แข็ง – นุ่ม The mattress is too hard for me. (ที่นอนนี้แข็งเกินไปสำหรับฉัน)

The pillow is very soft and comfortable. (หมอนนุ่มและสะดวกสบายมาก)

Healthy – Sick สุขภาพดี – ป่วย Eating vegetables keeps you healthy. (การกินผักทำให้คุณมีสุขภาพดี)

She was sick and couldn’t attend the meeting. (เธอป่วยและไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมได้)

Heavy – Light หนัก – เบา This box is too heavy to lift. (กล่องนี้หนักเกินกว่าจะยกขึ้นได้)

The fabric is light and breathable. (ผ้านี้เบาและระบายอากาศได้ดี)

High – Low สูง – ต่ำ The mountain is very high. (ภูเขานี้สูงมาก)

The basement is low and dark. (ชั้นใต้ดินต่ำและมืด)

Historic – Modern ประวัติศาสตร์ – ทันสมัย They visited a historic battlefield. (พวกเขาไปเยี่ยมชมสนามรบประวัติศาสตร์)

The city center is filled with modern architecture. (ใจกลางเมืองเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมทันสมัย)

Honest – Dishonest ซื่อสัตย์ – ไม่ซื่อสัตย์ He is known to be honest in his dealings. (เขามีชื่อเสียงว่าเป็นคนซื่อสัตย์ในการทำธุรกิจ)

The dishonest salesman tricked the customers. (พนักงานขายไม่ซื่อสัตย์หลอกลูกค้า)

Hot – Cold ร้อน – หนาว She prefers hot tea over cold drinks. (เธอชอบชาร้อนมากกว่าผลิตภัณฑ์เย็น)

The cold wind made everyone shiver. (ลมหนาวทำให้ทุกคนสั่น)

Huge – Tiny ใหญ่โต – เล็กมาก The elephant is a huge animal. (ช้างเป็นสัตว์ที่ใหญ่โต)

The tiny kitten curled up in her lap. (ลูกแมวเล็กนุ่มนิ่มงออยู่บนตักของเธอ)

Humid – Dry ร้อนชื้น – แห้ง The climate here is very humid. (ภูมิอากาศที่นี่ร้อนชื้นมาก)

The desert is known for its dry conditions. (ทะเลทรายมีชื่อเสียงเรื่องสภาพแห้ง)

Hungry – Full หิว – อิ่ม I’m hungry after the workout. (ฉันหิวหลังจากออกกำลังกาย)

She felt full after the delicious meal. (เธอรู้สึกอิ่มหลังอาหารมื้ออร่อย)

Include – Exclude รวม – ไม่รวม Please include all the necessary documents. (กรุณารวมเอกสารที่จำเป็นทั้งหมด)

They decided to exclude him from the team. (พวกเขาตัดสินใจไม่รวมเขาในทีม)

Increase – Decrease เพิ่มขึ้น – ลดลง They plan to increase production next year. (พวกเขาวางแผนที่จะเพิ่มการผลิตในปีหน้า)

The company needs to decrease expenses. (บริษัทต้องลดค่าใช้จ่าย)

Inside – Outside ข้างใน – ข้างนอก Let’s go outside and enjoy the weather. (ไปข้างนอกและสนุกกับสภาพอากาศกันเถอะ)

She prefers to stay inside during the rain. (เธอชอบอยู่ข้างในตอนฝนตก)

Intelligent – Stupid ฉลาด – โง่ She is very intelligent and quick to learn. (เธอฉลาดมากและเรียนรู้ได้รวดเร็ว)

The answer was stupid and irrelevant. (คำตอบนั้นโง่และไม่เกี่ยวข้อง)

Interesting – Boring น่าสนใจ – น่าเบื่อ The book is very interesting. (หนังสือเล่มนี้น่าสนใจมาก)

The lecture was boring and lengthy. (การบรรยายน่าเบื่อและยาวนาน)

Join – Separate เข้าร่วม – แยกออก They decided to join the club. (พวกเขาตัดสินใจเข้าร่วมสโมสร)

The company decided to separate the departments. (บริษัทตัดสินใจแยกแผนกต่าง ๆ)

Joy – Sorrow ความสุข – ความเศร้า Her face showed pure joy. (ใบหน้าของเธอแสดงถึงความสุขบริสุทธิ์)

He felt sorrow after hearing the news. (เขารู้สึกเศร้าหลังจากได้ยินข่าว)

Kind – Cruel อ่อนโยน – โหดร้าย She is kind to everyone she meets. (เธออ่อนโยนกับทุกคนที่เธอพบเจอ)

The cruel teacher punished the students harshly. (คุณครูโหดร้ายลงโทษนักเรียนอย่างรุนแรง)

Knowledge – Ignorance ความรู้ – ความไม่รู้ Education helps overcome ignorance. (การศึกษา ช่วยขจัดความไม่รู้)

Ignorance can lead to misunderstandings. (ความไม่รู้สามารถนำไปสู่การเข้าใจผิด)

Large – Small ใหญ่ – เล็ก They bought a large house in the suburbs. (พวกเขาซื้อบ้านใหญ่ในชานเมือง)

She has a small backpack for her daily use. (เธอมีกระเป๋าเป้เล็กสำหรับการใช้งานประจำวัน)

Last – First สุดท้าย – แรก He was the last to finish the race. (เขาเป็นคนสุดท้ายที่เสร็จการแข่งขัน)

She was the first to arrive at the party. (เธอเป็นคนแรกมาถึงงานปาร์ตี้)

Lazy – Industrious ขี้เกียจ – ขยันขันแข็ง She became more industrious after the new year. (เธอกลายเป็นขยันขันแข็งมากขึ้นหลังจากปีใหม่)

The lazy dog slept all day. (หมาขี้เกียจนอนตลอดทั้งวัน)

Left – Right ซ้าย – ขวา Turn left at the next intersection. (เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกถัดไป)

She turned right to reach the cafe. (เธอเลี้ยวขวาเพื่อไปถึงร้านกาแฟ)

Less – More น้อยกว่า – มากกว่า She needs more time to complete the project. (เธอต้องการเวลามากขึ้นในการทำโปรเจกต์ให้เสร็จ)

He has less interest in sports now. (เขามีความสนใจในกีฬาน้อยลงตอนนี้)

Light – Dark สว่าง – มืด The room is filled with light during the day. (ห้องเต็มไปด้วยแสงสว่างในเวลากลางวัน)

It gets dark early in the winter. (มันมืดเร็วในฤดูหนาว)

Like – Dislike ชอบ – ไม่ชอบ I like to read books in my free time. (ฉันชอบอ่านหนังสือในเวลาว่าง)

She dislikes loud noises. (เธอไม่ชอบเสียงดัง)

Little – Big เล็ก – ใหญ่ They have a little dog at home. (พวกเขามีสุนัขตัวเล็กที่บ้าน)

The big elephant walked slowly. (ช้างใหญ่เดินช้า ๆ)

Long – Short ยาว – สั้น She has long hair. (เธอมีผมยาว)

The meeting was short and efficient. (การประชุมสั้นและมีประสิทธิภาพ)

Loose – Tight หลวม – แน่น The knot is too loose. (โบว์พันพันมากเกินไป)

The screws are too tight and need loosening. (สกรูแน่นเกินไปและต้องคลาย)

Lose – Win สูญเสีย – ชนะ They hope to win the championship. (พวกเขามุ่งมั่นที่จะชนะแชมป์)

He didn’t want to lose the game. (เขาไม่ต้องการแพ้เกม)

Low – High ต่ำ – สูง The prices are low this week. (ราคาต่ำในสัปดาห์นี้)

The airplane flew high above the clouds. (เครื่องบินบินสูงเหนือเมฆ)

Male – Female ชาย – หญิง The study included both male and female participants. (การศึกษารวมถึงผู้เข้าร่วมทั้งชายและหญิง)

The female athlete won the race. (นักกีฬาหญิงชนะการแข่งขัน)

Major – Minor หลัก – รอง She chose a major in biology. (เธอเลือกวิชาเอกด้านชีววิทยา)

He played a minor role in the play. (เขาเล่นบทรองในละคร)

Majority – Minority ส่วนใหญ่ – ส่วนน้อย The majority voted in favor of the proposal. (ส่วนใหญ่ลงคะแนนเสียงสนับสนุนข้อเสนอ)

The minority expressed their concerns. (ส่วนน้อยแสดงความกังวลของพวกเขา)

Many – Few มาก – น้อย There are many stars in the sky. (มีดาวมากมายในท้องฟ้า)

Only a few students passed the exam. (มีนักเรียนเพียงไม่กี่คนที่ผ่านการสอบ)

Married – Single แต่งงานแล้ว – โสด She is happily married. (เธอแต่งงานแล้วอย่างมีความสุข)

He remains single despite his friends’ advice. (เขายังคงโสดแม้จะได้รับคำแนะนำจากเพื่อน)

Massive – Tiny ใหญ่โต – เล็กมาก The elephant is a massive animal. (ช้างเป็นสัตว์ที่ใหญ่โต)

The tiny insect crawled on the leaf. (แมลงเล็กน้อยคันบนใบไม้)

Mature – Immature เติบโตเต็มที่ – ไม่โตเต็มที่ He is very mature for his age. (เขาโตเต็มที่มากสำหรับวัยของเขา)

The immature behavior disappointed her parents. (พฤติกรรมไม่โตเต็มที่ทำให้พ่อแม่ของเธอผิดหวัง)

Maximum – Minimum สูงสุด – ต่ำสุด The temperature reached its maximum today. (อุณหภูมิถึงจุดสูงสุดในวันนี้)

The minimum wage has increased this year. (ค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้นในปีนี้)

Mean – Generous เฉยเมย – ใจกว้าง He was mean to his classmates. (เขาเฉยเมยต่อเพื่อนร่วมชั้น)

She is generous with her time and resources. (เธอใจกว้างกับเวลาและทรัพยากรของเธอ)

Mistake – Correct ผิดพลาด – ถูกต้อง Everyone makes mistakes sometimes. (ทุกคนบางครั้งก็ทำผิดพลาด)

Make sure your answer is correct. (ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคำตอบของคุณถูกต้อง)

Modern – Ancient ทันสมัย – โบราณ They visited a modern art museum. (พวกเขาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะทันสมัย)

The ancient ruins attracted many tourists. (ซากโบราณดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมาย)

Month – Year เดือน – ปี She plans to travel next year. (เธอวางแผนที่จะเดินทางในปีหน้า)

The project will be completed in a month. (โปรเจกต์จะเสร็จภายในหนึ่งเดือน)

More – Less มากกว่า – น้อยกว่า He needs more practice to improve. (เขาต้องการฝึกฝนมากขึ้นเพื่อพัฒนา)

She has less interest in the topic now. (เธอมีความสนใจในหัวข้อที่น้อยลงตอนนี้)

Morning – Evening เช้า – เย็น She likes to jog in the morning. (เธอชอบวิ่งตอนเช้า)

They enjoy watching movies in the evening. (พวกเขาชอบดูหนังตอนเย็น)

Near – Far ใกล้ – ไกล Their house is near the school. (บ้านของพวกเขาใกล้โรงเรียน)

The beach is far from the city center. (ชายหาดอยู่ไกลจากใจกลางเมือง)

Neat – Messy เรียบร้อย – ยุ่งเหยิง Her desk is always neat. (โต๊ะของเธอเรียบร้อยเสมอ)

His room is messy with clothes everywhere. (ห้องของเขายุ่งเหยิงไปด้วยเสื้อผ้าทั่วทุกที่)

Negative – Positive ลบ – บวก He has a positive attitude towards life. (เขามีทัศนคติเชิงบวกต่อชีวิต)

The negative feedback discouraged her. (คำติชมเชิงลบทำให้เธอท้อแท้)

Never – Always ไม่เคย – เสมอ She never eats junk food. (เธอไม่เคยกินอาหารขยะ)

He always arrives on time. (เขามาถึงเวลาเสมอ)

New – Old ใหม่ – เก่า They bought a new car last week. (พวกเขาซื้อรถใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว)

She prefers old books to new ones. (เธอชอบหนังสือเก่ากว่าหนังสือใหม่)

Noisy – Quiet เสียงดัง – เงียบ The classroom is too noisy today. (ห้องเรียนเสียงดังเกินไปในวันนี้)

The library is a quiet place to study. (ห้องสมุดเป็นสถานที่เงียบสงบสำหรับการเรียน)

Normal – Strange ปกติ – แปลก It’s normal to feel nervous before a test. (มันปกติที่จะรู้สึกประหม่าก่อนการสอบ)

The new student has a strange accent. (นักเรียนใหม่มีสำเนียงแปลก)

Nothing – Something ไม่มีอะไร – มีอะไรบางอย่าง There is nothing in the fridge. (ไม่มีอะไรในตู้เย็น)

She found something interesting in the box. (เธอพบอะไรบางอย่างที่น่าสนใจในกล่อง)

Notice – Ignore สังเกต – ไม่สนใจ She noticed the beautiful painting. (เธอสังเกตเห็นภาพวาดที่สวยงาม)

He decided to ignore the warnings. (เขาตัดสินใจไม่สนใจคำเตือน)

Obey – Rebel เชื่อฟัง – ตะกรัน Children should obey their parents. (เด็ก ๆ ควรเชื่อฟังพ่อแม่ของพวกเขา)

Teenagers often rebel against authority. (วัยรุ่นมักตะกรันต่อต้านอำนาจ)

Obvious – Hidden ชัดเจน – ซ่อนอยู่ The answer was obvious to everyone. (คำตอบนั้นชัดเจนสำหรับทุกคน)

The treasure was hidden in the cave. (สมบัติลับอยู่ในถ้ำ)

Open – Closed เปิด – ปิด The store is open until 9 PM. (ร้านเปิดจนถึงเวลา 21:00 น.)

Please close the window before you leave. (กรุณาปิดหน้าต่างก่อนที่คุณจะออกไป)

Optimistic – Pessimistic มองโลกในแง่ดี – มองโลกในแง่ร้าย She remains optimistic about the future. (เธอยังคงมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคต)

His pessimistic view makes him hesitant. (มุมมองเชิงลบทำให้เขาลังเล)

Order – Chaos การสั่งการ – ความวุ่นวาย The library was in perfect order. (ห้องสมุดอยู่ในระเบียบเรียบร้อย)

The room descended into chaos after the announcement. (ห้องกลายเป็นความวุ่นวายหลังจากการประกาศ)

Out – In ข้างนอก – ข้างใน Let’s go out for dinner tonight. (ไปทานอาหารเย็นข้างนอกคืนนี้กันเถอะ)

She prefers to stay in on weekends. (เธอชอบอยู่ข้างในในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์)

Outside – Inside ข้างนอก – ข้างใน It’s cold outside today. (วันนี้อากาศหนาวข้างนอก)

The children are playing inside the house. (เด็ก ๆ กำลังเล่นอยู่ข้างในบ้าน)

Over – Under เหนือ – ใต้ The picture is hanging over the fireplace. (รูปภาพถูกแขวนเหนือเตาผิง)

The cat is hiding under the table. (แมวกำลังซ่อนอยู่ใต้โต๊ะ)

Partial – Complete ส่วนหนึ่ง – สมบูรณ์ The project is only partially finished. (โปรเจกต์ยังเสร็จเพียงบางส่วน)

They achieved a complete victory in the match. (พวกเขาได้รับชัยชนะสมบูรณ์ในการแข่งขัน)

Pass – Fail ผ่าน – ล้มเหลว She hopes to pass all her exams. (เธอหวังว่าจะผ่านการสอบทั้งหมด)

Unfortunately, he failed the driving test. (น่าเสียดายที่เขาล้มเหลวในการทดสอบขับรถ)

Peace – War สันติภาพ – สงคราม They prayed for peace in the world. (พวกเขาสวดมนต์ขอให้มีสันติภาพในโลก)

The country was torn apart by war. (ประเทศถูกทำลายด้วยสงคราม)

Perfect – Imperfect สมบูรณ์แบบ – ไม่สมบูรณ์ No one is perfect. (ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ)

The vase is imperfect with a small crack. (แจกันไม่สมบูรณ์ด้วยรอยแตกเล็กน้อย)

Permanent – Temporary ถาวร – ชั่วคราว They signed a permanent contract. (พวกเขาเซ็นสัญญาถาวร)

The tattoo is temporary and will fade over time. (สักชั่วคราวและจะจางลงตามกาลเวลา)

Permit – Forbid อนุญาต – ห้าม Smoking is forbidden in this area. (ห้ามสูบบุหรี่ในพื้นที่นี้)

They permit visitors to enter the museum on weekends. (พวกเขาอนุญาตให้ผู้เยี่ยมชมเข้าชมพิพิธภัณฑ์ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์)

Poor – Rich จน – รวย He grew up in a poor neighborhood. (เขาเติบโตมาในย่านที่ยากจน)

She became rich after her successful business venture. (เธอร่ำรวยหลังจากการทำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ)

Popular – Unpopular ยอดนิยม – ไม่เป็นที่นิยม The new song is very popular. (เพลงใหม่นี้ได้รับความนิยมมาก)

His unpopular decisions caused dissent among the team. (การตัดสินใจที่ไม่เป็นที่นิยมของเขาทำให้เกิดความไม่พอใจในทีม)

Positive – Negative เชิงบวก – เชิงลบ She gave a positive response to the idea. (เธอให้การตอบรับเชิงบวกกับความคิดนั้น)

His negative attitude affects the entire team. (ทัศนคติเชิงลบของเขามีผลกระทบต่อทีมทั้งหมด)

Possible – Impossible เป็นไปได้ – เป็นไปไม่ได้ It’s possible to learn a new language with dedication. (เป็นไปได้ที่จะเรียนรู้ภาษาใหม่ด้วยความทุ่มเท)

Climbing Mount Everest is impossible without proper training. (การปีนภูเขาเอเวอเรสต์เป็นไปไม่ได้ถ้าไม่มีการฝึกฝนที่เหมาะสม)

Powerful – Weak แข็งแกร่ง – อ่อนแอ The engine is powerful enough for the car. (เครื่องยนต์มีความแข็งแกร่งพอสำหรับรถยนต์)

The old bridge is weak and needs repairs. (สะพานเก่ามีความอ่อนแอและต้องการการซ่อมแซม)

Practical – Impractical ใช้ได้จริง – ไม่ใช่จริงจัง Her ideas are very practical. (ไอเดียของเธอใช้ได้จริงมาก)

The plan is impractical and unlikely to succeed. (แผนนี้ไม่ใช่จริงจังและไม่น่าจะประสบความสำเร็จ)

Present – Absent มา – ไม่มา She was present at the meeting. (เธอมาที่การประชุม)

He was absent from school due to illness. (เขาไม่มาโรงเรียนเพราะป่วย)

Produce – Consume ผลิต – บริโภค The factory produces thousands of cars each year. (โรงงานผลิตรถยนต์นับพันคันต่อปี)

Consumers continue to consume more electronic devices. (ผู้บริโภคยังคงบริโภคอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น)

Protect – Harm ปกป้อง – ทำร้าย Sunscreen protects your skin from UV rays. (ครีมกันแดดปกป้องผิวของคุณจากรังสี UV)

Pollution harms the environment. (มลพิษทำร้ายสิ่งแวดล้อม)

Pure – Impure บริสุทธิ์ – ไส้ปลา The water from the spring is pure. (น้ำจากน้ำพุบริสุทธิ์)

The mixture became impure after adding contaminants. (ส่วนผสมกลายเป็นไส้ปลาเมื่อเติมสารปนเปื้อน)

Quick – Slow เร็ว – ช้า She made a quick decision. (เธอตัดสินใจอย่างรวดเร็ว)

The traffic was slow due to an accident. (การจราจรช้าลงเนื่องจากอุบัติเหตุ)

Quiet – Noisy เงียบ – เสียงดัง The library is a quiet place to study. (ห้องสมุดเป็นสถานที่เงียบสงบสำหรับการเรียน)

The construction site was very noisy. (สถานที่ก่อสร้างเสียงดังมาก)

Raise – Lower ยกขึ้น – ลดลง They decided to raise the prices. (พวกเขาตัดสินใจยกราคาขึ้น)

The government plans to lower taxes next year. (รัฐบาลวางแผนที่จะลดภาษีในปีหน้า)

Rare – Common หายาก – ทั่วไป Snow is rare in this region. (หิมะหายากในภูมิภาคนี้)

It’s common to see cars on the highway. (เป็นเรื่องทั่วไปที่จะเห็นรถยนต์บนทางหลวง)

Raw – Cooked ดิบ – สุก She prefers her vegetables raw. (เธอชอบผักดิบ)

The meat is cooked to perfection. (เนื้อถูกปรุงสุกอย่างสมบูรณ์แบบ)

Real – Fake แท้จริง – ปลอม The painting is real and valuable. (ภาพวาดนี้เป็นของแท้และมีค่า)

The replica looks fake upon closer inspection. (สำเนาดูปลอมเมื่อสังเกตใกล้ชิด)

Reasonable – Unreasonable สมเหตุสมผล – ไม่มีเหตุผล Her request was reasonable and accepted. (คำขอของเธอสมเหตุสมผลและได้รับการยอมรับ)

The manager found his demands unreasonable. (ผู้จัดการพบว่าคำร้องของเขาไม่มีเหตุผล)

Receive – Send รับ – ส่ง I will receive the package tomorrow. (ฉันจะรับพัสดุพรุ่งนี้)

She decided to send a thank-you note. (เธอตัดสินใจส่งโน้ตขอบคุณ)

Recent – Ancient ล่าสุด – โบราณ The recent update improved the software. (การอัปเดตล่าสุดทำให้ซอฟต์แวร์ดีขึ้น)

They explored ancient ruins during their trip. (พวกเขาสำรวจซากโบราณในระหว่างการเดินทาง)

Refuse – Accept ปฏิเสธ – ยอมรับ He refused the offer politely. (เขาปฏิเสธข้อเสนออย่างสุภาพ)

She decided to accept the invitation. (เธอตัดสินใจยอมรับคำเชิญ)

Regular – Irregular ปกติ – ไม่ปกติ She has regular check-ups every year. (เธอมีการตรวจสุขภาพประจำปี)

His irregular schedule makes it hard to plan. (ตารางเวลาที่ไม่ปกติของเขาทำให้ยากที่จะวางแผน)

Relevant – Irrelevant เกี่ยวข้อง – ไม่เกี่ยวข้อง The information is relevant to our discussion. (ข้อมูลนี้เกี่ยวข้องกับการสนทนาของเรา)

Her comments were irrelevant to the topic. (ความคิดเห็นของเธอไม่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ)

Rich – Poor รวย – จน They became rich after their business succeeded. (พวกเขารวยหลังจากธุรกิจของพวกเขาประสบความสำเร็จ)

He grew up in a poor neighborhood. (เขาเติบโตมาในย่านที่ยากจน)

Right – Wrong ถูกต้อง – ผิดพลาด Make sure your answer is right. (ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคำตอบของคุณถูกต้อง)

It’s wrong to lie. (การโกหกเป็นสิ่งผิด)

Rise – Fall เพิ่มขึ้น – ลดลง The sun will rise at 6 AM tomorrow. (พระอาทิตย์จะขึ้นเวลา 6 โมงเช้าพรุ่งนี้)

Stock prices tend to rise and fall. (ราคาหุ้นมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นและลดลง)

Risk – Safety เสี่ยง – ปลอดภัย Wearing a helmet reduces the risk of injury. (การสวมหมวกกันน็อคลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บ)

Safety measures are essential in the workplace. (มาตรการความปลอดภัยเป็นสิ่งจำเป็นในที่ทำงาน)

Rigid – Flexible แข็งกระด้าง – ยืดหยุ่น The schedule is too rigid for her needs. (ตารางนี้แข็งกระด้างเกินไปสำหรับความต้องการของเธอ)

Yoga helps make your body more flexible. (โยคะช่วยทำให้ร่างกายของคุณยืดหยุ่นมากขึ้น)

Right – Left ขวา – ซ้าย Turn right at the traffic light. (เลี้ยวขวาที่สัญญาณไฟจราจร)

She placed her left hand on the table. (เธอวางมือซ้ายบนโต๊ะ)

Rise – Set ขึ้น – ตก The sun will set at 7 PM. (พระอาทิตย์จะตกเวลา 19:00 น.)

The sun rises every morning. (พระอาทิตย์ขึ้นทุกเช้า)

Ripe – Unripe สุก – ดิบ The mango is ripe and sweet. (มะม่วงสุกและหวาน)

The bananas are still unripe and hard. (กล้วยยังไม่สุกและแข็ง)

Same – Different เหมือนกัน – แตกต่าง Their opinions are different. (ความคิดเห็นของพวกเขาแตกต่างกัน)

They have the same taste in music. (พวกเขามีรสนิยมเพลงเหมือนกัน)

Save – Spend เก็บ – ใช้จ่าย She decided to save money for a new car. (เธอตัดสินใจเก็บเงินสำหรับรถใหม่)

He likes to spend his weekends traveling. (เขาชอบใช้เวลาวันหยุดสุดสัปดาห์ในการเดินทาง)

Scarce – Abundant หายาก – อุดมสมบูรณ์ Fresh water is scarce in the desert. (น้ำสะอาดหายากในทะเลทราย)

The garden is abundant with flowers in spring. (สวนเต็มไปด้วยดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ)

Secure – Insecure ปลอดภัย – ไม่ปลอดภัย Ensure your home is secure. (ตรวจสอบให้แน่ใจว่าบ้านของคุณปลอดภัย)

He felt insecure about his performance. (เขารู้สึกไม่ปลอดภัยเกี่ยวกับการแสดงของเขา)

Sell – Buy ขาย – ซื้อ They decided to sell their old furniture. (พวกเขาตัดสินใจขายเฟอร์นิเจอร์เก่าของพวกเขา)

She wants to buy a new laptop. (เธอต้องการซื้อแล็ปท็อปใหม่)

Serious – Humorous จริงจัง – ตลก The topic is too serious for jokes. (หัวข้อนี้จริงจังเกินกว่าจะมีมุขตลก)

He has a humorous personality that everyone loves. (เขามีบุคลิกตลกที่ทุกคนชอบ)

Sharp – Dull แหลม – ทื่อ Be careful with the sharp knife. (ระวังมีดแหลม)

The pencil is too dull to write. (ดินสอทื่อเกินไปที่จะเขียนได้)

Shallow – Deep ตื้น – ลึก The water is too shallow for diving. (น้ำตื้นเกินไปสำหรับการดำน้ำ)

The ocean is deep and mysterious. (มหาสมุทรลึกและลึกลับ)

Short – Long สั้น – ยาว She has short hair. (เธอมีผมสั้น)

The meeting was short and efficient. (การประชุมสั้นและมีประสิทธิภาพ)

Shut – Open ปิด – เปิด Please shut the window before you leave. (กรุณาปิดหน้าต่างก่อนที่คุณจะออกไป)

They decided to open a new branch in the city. (พวกเขาตัดสินใจเปิดสาขาใหม่ในเมือง)

Simple – Complex เรียบง่าย – ซับซ้อน The instructions are simple to follow. (คำแนะนำง่ายต่อการติดตาม)

The machinery is complex and requires training. (เครื่องจักรซับซ้อนและต้องการการฝึกฝน)

Slow – Fast ช้า – เร็ว The turtle is slow but steady. (เต่าช้าแต่มั่นคง)

The cheetah is the fastest land animal. (เสือชีตาห์เป็นสัตว์ที่เร็วที่สุดบนบก)

Small – Large เล็ก – ใหญ่ They bought a small apartment downtown. (พวกเขาซื้ออพาร์ตเมนต์เล็กในใจกลางเมือง)

The large elephant roamed freely in the wild. (ช้างใหญ่เดินอย่างเสรีในป่า)

Soft – Hard นุ่ม – แข็ง The pillow is very soft. (หมอนนุ่มมาก)

The rock is hard and durable. (หินแข็งและทนทาน)

Solid – Liquid ของแข็ง – ของเหลว Water turns into solid ice in cold temperatures. (น้ำกลายเป็นน้ำแข็งในอุณหภูมิต่ำ)

The liquid paint dries quickly on the surface. (สีของเหลวแห้งเร็วบนพื้นผิว)

Soon – Later เร็ว – ช้า I will see you soon. (ฉันจะเจอคุณเร็ว ๆ นี้)

We can discuss it later after the meeting. (เราสามารถพูดคุยเรื่องนั้นภายหลังการประชุม)

Start – Finish เริ่ม – จบ Let’s start the meeting now. (มาเริ่มการประชุมกันตอนนี้)

We need to finish the project by Friday. (เราต้องจบโปรเจกต์ภายในวันศุกร์)

Strong – Weak แข็งแรง – อ่อนแอ He is strong enough to lift the box. (เขาแข็งแรงพอที่จะยกกล่องได้)

After the illness, she felt weak and tired. (หลังจากป่วย เธอรู้สึกอ่อนแอและเหนื่อย)

Success – Failure ความสำเร็จ – ความล้มเหลว Their success was well deserved. (ความสำเร็จของพวกเขานั้นสมควรได้รับ)

The failure taught him valuable lessons. (ความล้มเหลวสอนเขาเรื่องราวที่มีค่า)

Sweet – Sour หวาน – เปรี้ยว The lemonade is too sour for my taste. (น้ำมะนาวเปรี้ยวเกินไปสำหรับรสชาติของฉัน)

She enjoys sweet desserts after dinner. (เธอชอบของหวานหลังอาหารเย็น)

Tall – Short สูง – สั้น The tall building can be seen from miles away. (อาคารสูงสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล)

He has short hair that’s easy to manage. (เขามีผมสั้นที่ดูแลง่าย)

Thick – Thin หนา – บาง The book is very thick. (หนังสือเล่มนี้หนามาก)

She prefers thin slices of bread. (เธอชอบขนมปังแผ่นบาง)

Thin – Thick บาง – หนา She prefers thin slices of bread. (เธอชอบขนมปังแผ่นบาง)

The tree trunk is thick and sturdy. (ลำต้นไม้หนาและมั่นคง)

Tight – Loose แน่น – หลวม The lid is too tight to open. (ฝาปิดแน่นเกินไปที่จะเปิด)

Her shoes are loose and comfortable. (รองเท้าของเธอหลวมและสะดวกสบาย)

True – False จริง – เท็จ His story turned out to be false. (เรื่องราวของเขาพิสูจน์ว่าเป็นเท็จ)

The statement she made was true. (คำกล่าวที่เธอทำเป็นจริง)

Understand – Misunderstand เข้าใจ – เข้าใจผิด Please clarify to avoid misunderstandings. (กรุณาชี้แจงเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจผิด)

He misunderstood the instructions and made a mistake. (เขาเข้าใจผิดคำแนะนำและทำผิดพลาด)

United – Divided รวมกัน – แยกออก The team remained united despite challenges. (ทีมยังคงรวมกันแม้จะมีอุปสรรค)

The country became divided over the policy. (ประเทศกลายเป็นแยกออกเพราะนโยบาย)

Up – Down ขึ้น – ลง The balloon floated up into the sky. (ลูกโป่งลอยขึ้นไปในท้องฟ้า)

The stock prices went down yesterday. (ราคาหุ้นลดลงเมื่อวานนี้)

Victory – Defeat ชัยชนะ – แพ้ They celebrated their victory with joy. (พวกเขาเฉลิมฉลองชัยชนะด้วยความยินดี)

The team faced defeat in the final match. (ทีมต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้ในการแข่งขันรอบสุดท้าย)

Visible – Invisible มองเห็นได้ – มองไม่เห็น The rainbow was clearly visible after the rain. (สายรุ้งมองเห็นได้ชัดเจนหลังฝนตก)

The bacteria are invisible to the naked eye. (แบคทีเรียมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า)

Warm – Cool อุ่น – เย็น The soup is still warm. (ซุปยังอุ่นอยู่)

The breeze feels cool on a hot day. (ลมพัดเย็นในวันที่ร้อน)

Weak – Strong อ่อนแอ – แข็งแรง After the illness, he felt weak. (หลังจากเจ็บป่วย เขารู้สึกอ่อนแอ)

She has strong determination to succeed. (เธอมีความมุ่งมั่นแข็งแรงที่จะประสบความสำเร็จ)

Wet – Dry เปียก – แห้ง The clothes are dry now. (เสื้อผ้าแห้งแล้วตอนนี้)

The ground was wet after the rain. (พื้นดินเปียกหลังฝนตก)

Win – Lose ชนะ – แพ้ They aim to win the championship. (พวกเขามุ่งมั่นที่จะชนะแชมป์)

He didn’t want to lose the game. (เขาไม่ต้องการแพ้เกม)

Wrong – Right ผิด – ถูกต้อง It’s wrong to lie. (การโกหกเป็นสิ่งผิด)

Make sure your answer is right. (ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคำตอบของคุณถูกต้อง)

Young – Old เยาว์ – เก่าแก่ She feels young at heart. (เธอรู้สึกเยาว์วัยในใจ)

The old tree has stood for centuries. (ต้นไม้เก่าแก่ยืนอยู่เป็นศตวรรษ)

Yes – No ใช่ – ไม่ Yes, I would like some coffee. (ใช่ ฉันต้องการกาแฟ)

No, I don’t need any help. (ไม่ ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือ)

Yield – Resist ยอมแพ้ – ต่อต้าน Farmers yield crops in the spring. (ชาวไร่เพาะปลูกพืชผลในฤดูใบไม้ผลิ)

She decided to resist the temptation. (เธอตัดสินใจต่อต้านความยั่วยวน)

V. แบบฝึกหัดคำตรงข้ามภาษาอังกฤษ

การฝึกฝนคำตรงข้าม (Antonyms) เป็นวิธีที่ดีในการเสริมสร้างทักษะภาษาอังกฤษของคุณ ด้านล่างนี้คือแบบฝึกหัดที่ช่วยให้คุณสามารถฝึกฝนและทดสอบความรู้เกี่ยวกับคำตรงข้ามได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนที่ 1: เติมคำตรงข้าม

เติมคำที่ตรงข้ามลงในช่องว่างให้ถูกต้อง

  1. The sky is ______ today. (Light – Dark)
  2. She is very ______. (Happy – Sad)
  3. This box is too ______ to lift. (Heavy – Light)
  4. He runs ______ than his brother. (Fast – Slow)
  5. The water is ______ near the shore. (Deep – Shallow)
  6. They arrived ______ for the meeting. (Early – Late)
  7. The bridge is ______ and needs repairs. (Strong – Weak)
  8. Please keep your room ______. (Clean – Dirty)
  9. The store is ______ until 9 PM. (Open – Closed)
  10. She feels ______ at heart. (Young – Old)

คำตอบ

  1. Dark
  2. Sad
  3. Heavy
  4. Slow
  5. Shallow
  6. Early
  7. Weak
  8. Clean
  9. Open
  10. Young

การเรียนรู้คําตรงข้าม ภาษาอังกฤษ เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการพัฒนาทักษะการสื่อสารของคุณ ด้วยวิธีการสร้างและจำแนกประเภทที่ถูกต้อง พร้อมกับการฝึกจำและแบบฝึกหัดที่มีประสิทธิภาพ คุณจะสามารถใช้คำตรงข้ามได้อย่างมั่นใจและเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น เริ่มต้นเรียนรู้และฝึกฝนวันนี้เพื่อความก้าวหน้าในภาษาอังกฤษของคุณ!

5/5 - (1 vote)

รายการบทความ

บางทีคุณอาจสนใจ

คำศัพท์วันตรุษจีนภาษาอังกฤษ: คำที่ใช้ทั่วไป และคำอวยพรที่มีความหมาย

คำศัพท์วันตรุษจีนภาษาอังกฤษ: คำที่ใช้ทั่วไป และคำอวยพรที่มีความหมาย

0
ตรุษจีนเป็นเทศกาลที่สำคัญและมีความหมายยิ่งใหญ่ในวัฒนธรรมไทย บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับคำศัพท์วันตรุษจีนภาษาอังกฤษที่ใช้ทั่วไป พร้อมทั้งคำอวยพรที่มีความหมายเพื่อให้คุณสามารถสื่อสารได้อย่างมั่นใจในช่วงเทศกาลนี้ รวมถึงคำศัพท์เกี่ยวกับอาหารและวัตถุต่างๆ ที่ใช้ในวันตรุษจีน I. คำศัพท์สำหรับวันตรุษจีนในภาษาอังกฤษที่ใช้ทั่วไป การรู้จักคำศัพท์วันตรุษจีนในภาษาอังกฤษจะช่วยให้คุณสามารถสื่อสารและเข้าใจวัฒนธรรมจีนได้ดีขึ้นในช่วงเทศกาลนี้ บทนี้จะแบ่งคำศัพท์ออกเป็นกลุ่มต่างๆ เพื่อความเข้าใจที่ง่ายและครบถ้วน 1. คำศัพท์ทั่วไปเกี่ยวกับวันตรุษจีน คำศัพท์ทั่วไปเกี่ยวกับวันตรุษจีนเป็นคำที่ใช้บ่อยในการสนทนาและกิจกรรมต่างๆ ในช่วงเทศกาลนี้ ตารางต่อไปนี้รวบรวมคำศัพท์ที่สำคัญพร้อมการออกเสียง ความหมาย และตัวอย่างการใช้งาน คำศัพท์ (Word) การออกเสียง (Pronunciation) ความหมาย (Meaning) ตัวอย่าง (Example) Chinese New Year /ˈtʃaɪniːz njuː ˈjɪər/ วันตรุษจีน We celebrated Chinese New...
Phrasal Verbs Break: 12 วลีที่ขึ้นต้นด้วย Break

12 Phrasal Verbs กับ Break ที่คุณต้องรู้ ใช้ง่าย เข้าใจไว!

0
ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับ "Phrasal Verbs Break" ที่มีคำว่า "break" ซึ่งใช้ได้ในหลากหลายสถานการณ์ เช่น "break away", "break apart", "break with", "break above", และ "break in" โดยจะมีตัวอย่างประโยคที่จะช่วยให้คุณเข้าใจการใช้แต่ละคำในชีวิตประจำวัน พร้อมทั้งฝึกฝนการเติมคำในประโยค เพื่อเสริมสร้างทักษะการใช้ "Phrasal...
Phrasal Verbs Keep

Phrasal Verbs Keep คืออะไร? รวมตัวอย่างและวิธีใช้ Phrasal Verbs Keep

0
Phrasal verbs ที่มีคำว่า "keep" เป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มความหลากหลายให้กับการสื่อสารภาษาอังกฤษของคุณ คำเหล่านี้ไม่เพียงแค่เพิ่มความชัดเจนและความเป็นธรรมชาติให้กับบทสนทนา แต่ยังช่วยให้คุณเข้าใจภาษาอังกฤษในบริบทที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น มาค้นพบความหมาย ตัวอย่างการใช้ และวิธีฝึกฝน Phrasal verbs keep ที่ใช้บ่อยที่สุด พร้อมเสริมทักษะภาษาอังกฤษของคุณให้แข็งแกร่งขึ้น! I. Phrasal Verbs Keep คืออะไร? Phrasal Verbs หรือกริยาวลี คือการรวมตัวกันของคำกริยา (Verb) และคำอื่น...
คำศัพท์ท่องเที่ยวภา

100 คำศัพท์ท่องเที่ยวภาษาอังกฤษที่คุณควรรู้ก่อนเดินทาง

0
การท่องเที่ยวเป็นโอกาสที่ดีในการฝึกฝนและใช้ภาษาอังกฤษ บทความนี้รวบรวม 100 คำศัพท์ท่องเที่ยวภาษาอังกฤษที่สำคัญ พร้อมตัวอย่างการใช้งาน ช่วยให้คุณสามารถสื่อสารได้อย่างมั่นใจระหว่างการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการจองโรงแรม การขอคำแนะนำ หรือการสั่งอาหาร I. คำศัพท์ที่น่าสนใจสำหรับการท่องเที่ยว การรู้จักคำศัพท์ท่องเที่ยวภาษาอังกฤษเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน เพื่อให้การสื่อสารเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการจองโรงแรม การใช้บริการต่างๆ หรือการขอคำแนะนำในสถานที่ต่างๆ นี่คือคำศัพท์ที่น่าสนใจสำหรับการท่องเที่ยว: 1. ที่สนามบิน การเดินทางผ่านสนามบินมักมีหลายขั้นตอนที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ การรู้จักคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้คุณสามารถจัดการกระบวนการได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างคำศัพท์ที่น่าสนใจที่สนามบินมีดังนี้: คำศัพท์ + หมวดหมู่ การออกเสียง ความหมาย ตัวอย่างและการแปล Check-in counter (จุดเช็คอิน) /ˈtʃɛkɪn ˈkaʊntər/ จุดเช็คอิน Please go...
คําศัพท์อาชีพ ภาษาอังกฤษ 100 อาชีพพร้อมคำอ่านและตัวอย่างประโยค

คําศัพท์อาชีพ ภาษาอังกฤษ 100 อาชีพพร้อมคำอ่านและตัวอย่างประโยค

0
คําศัพท์อาชีพ ภาษาอังกฤษ เป็นส่วนสำคัญในการสื่อสารและพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของคุณ บทความนี้รวบรวมคําศัพท์อาชีพ 100 อาชีพพร้อมคำอ่านและตัวอย่างประโยค เพื่อช่วยให้คุณสามารถพูดคุยเกี่ยวกับงานและอาชีพต่างๆ ได้อย่างมั่นใจและถูกต้อง I. อาชีพภาษาอังกฤษ (Occupation) การรู้จักและใช้คําศัพท์อาชีพ ภาษาอังกฤษ เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการสื่อสารในชีวิตประจำวันและการทำงาน ไม่ว่าคุณจะต้องการพูดคุยเกี่ยวกับอาชีพของตัวเอง หรือถามเกี่ยวกับอาชีพของผู้อื่น การมีคําศัพท์ที่ถูกต้องจะช่วยให้การสื่อสารเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะนำเสนอคําศัพท์อาชีพ ภาษาอังกฤษ 100 อาชีพที่คุณควรรู้ พร้อมคำอ่านและตัวอย่างประโยคเพื่อการเรียนรู้ที่ง่ายขึ้น คำศัพท์ + หมวดหมู่ การออกเสียง ความหมาย ตัวอย่างและการแปล Photographer (นาม) /fəˈtɒɡrəfər/ ช่างภาพ She works...

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

โพสต์ใหม่

คําอวยพรวันวาเลนไทน์ ภาษาอังกฤษ: 50 แคปชั่นที่น่ารักและมีความหมาย

Vocabulary
Read more